xs
xsm
sm
md
lg

“สาวิทย์” ฉะตระกูล “ชิดชอบ” โกงที่ดินเขากระโดง-ขีดเส้นตายรัฐบาล 9 ข้อเรียกร้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “สาวิทย์ แก้วหวาน” เลขาธิการ สรส. ร่วมประชุมกับ พนง.การรถไฟหาดใหญ่ กรณีที่ตระกูลชิดชอบได้ออกโฉนดบนพื้นที่เขากระโดง บุรีรัมย์ ไปใช้ประโยชน์แก่บริษัทของตน ซึ่งเป็นพื้นที่พระราชทานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงข้อเรียกร้อง 9 ข้อที่เสนอต่อนายกรัฐมนตรี หากยังไม่เกิดผลทางการรถไฟก็จะยังดำเนินการกดดันรัฐบาลร่วมกับทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อไป

วันนี้ (2 ต.ค.) ที่สหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้เข้าร่วมประชุมกับพนักงานการรถไฟ สาขาหาดใหญ่ หลังจากที่ได้พร้อมใจกันหยุดงานเพื่อร่วมกดดันรัฐบาลเป็นระยะเวลานาน

นายสาวิทย์ กล่าวถึงการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ต้องมีการกดดันให้รัฐบาลลาออก โดยเรื่องหนึ่งคือกรณีที่ดินเขากระโดงที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นของหลวงและได้พระราชทานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อก่อสร้างรางรถไฟ เพราะหินที่เขากระโดงนั้นเป็นหินที่ดีที่สุด ทนต่อการเสียดสีของล้อรถจักรมาก

แต่ตระกูลชิดชอบได้ออกโฉนดบนพื้นที่เขากระโดง และนำพื้นที่ตรงนี้ไปใช้ประโยชน์แก่ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่นายชัย ชิดชอบ และภรรยาถือหุ้นเป็นกรรมการอยู่ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง เพราะตามกฎหมายไม่สามารถเอาที่ดินของหลวงไปออกโฉนดเป็นของตนเองได้ และต่อมาคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริง จึงต้องเบิกถอนสิทธิ์ที่กรมที่ดิน

“รัฐบาลนายสมัครได้ตบหน้าคนรถไฟฉาดใหญ่ ที่ได้แต่งตั้ง นายชัย ชิดชอบ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งๆ ที่เป็นคนทำผิดกฎหมายเสียเอง” นายสาวิทย์ กล่าว

และตามที่สหภาพฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีไป 9 ข้อนั้น หากยังไม่เป็นผลจะดำเนินการกดดันรัฐบาลต่อไปอีก ซึ่งการดำเนินการในส่วนนี้ยืนยันว่าการรถไฟไม่ได้เป็นเครื่องมือของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ที่ออกมาร่วมกดดันในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และต้องการให้แก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 และยกเลิก พ.ร.บ.การจัดรางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464

โดยข้อเรียกร้อง 9 ข้อนั้น ประกอบด้วย

1.ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในมาตรา 5(3) จ้างเหมาค่าแรงโดยลูกจ้างเหมาค่าแรงจะต้องได้ค่าจ้าง และสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างในระบบจ้างปกติของสถานประกอบการนั้นๆ

2.ขอให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยเพิ่มมาตรา 52 เรื่องการจัดตั้งสถาบันความปลอดภัยในการทำงาน เป็นองค์กรทางวิชาชีพ

3.ขอให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

4.ขอให้ปรับอัตราค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามอัตราเงินเฟ้อและให้ปรับเงินในอัตราเดียวทั้งประเทศ และให้ควบคุมสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ

5.ขอให้ประกาศยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด

6.ขอให้ประกาศกฎหมายที่ให้ผู้ใช้แรงงานและประชาชนที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่นอกทะเบียนบ้านสามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ในเขตพื้นที่ซึ่งตนอาศัยหรือทำงานอยู่ได้

7.ขอให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดตั้งโรงพยาบาลของตนเอง เพื่อบริการการรักษาแก่ผู้ประกันตน

8.ในกรณีที่ผู้ประกันตนเกษียณอายุไม่ว่าจะรับบำเหน็จหรือบำนาญ ขอให้ สปส.รักษาพยาบาลแก่ผู้ประกันตนฟรี ไม่ต้องไปใช้โครงการ 30 บาท

และ 9.ขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการฝ่ายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง ร่วมกับผู้แทนฝ่ายลูกจ้างทั้ง 11 สภาฯ กับ 1 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ติดตามข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงานที่ยื่นในวันนี้ พร้อมทั้งให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานสัมพันธ์ เป็นเลขานุการ





กำลังโหลดความคิดเห็น