สตูล – กลุ่มแม่บ้าน จ.สตูล รวมกลุ่มทำขนมพื้นบ้าน รับเทศกสลวันฮารีรายอ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม นอกจากจะทำไว้รับแขกและเป็นของฝากแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้อีกด้วย
วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจังหวัดสตูลที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ต่างเริ่มลงมือทำขนมทองพับ เตรียมไว้รับแขกและไว้เป็นของฝากในวันฮารีรายอ ที่จะมีการเฉลิมฉลองขึ้นหลังเสร็จสิ้นการถือศิลอด ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่รวมตัวขึ้นเพื่อรับจ้างทำขนมพื้นเมืองชนิดนี้ สร้างงาน สร้างรายได้ และมุสลิมบางครัวเรือนก็ทำกันเองที่บ้าน
ด้าน นางฮาหวา กองพล อายุ 60 ปี ประธานกลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเกตรีทำขนมพื้นเมือง กล่าวหลังทำขนมทองพับว่า เมื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอน ก็ได้มีการรวมกลุ่มเพื่อทำขนมทองพับ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า โกยสเปด หรือกาเปด รองรับการจ้างทำขนมของเพื่อนบ้านในพื้นที่ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสตรีที่ตกงาน รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์การทำขนมพื้นเมืองที่ใกล้จะหารับประทานยากในอนาคตหากไม่มีคนทำ ขนมก็จะเลือนหายไป เพราะคนบางส่วนได้ออกหางานทำนอกบ้าน อีกทั้งยังเป็นการฝึกสร้างความอดทน สร้างความสามัคคีกันในกลุ่ม
สำหรับค่าแรงที่ทางกลุ่มเรียกนั้นยังอยู่ในราคาปกติเหมือนปีที่ผ่านมา คือ แป้งข้าวเจ้าจำนวน 1 กก. ราคาค่าจ้าง 120 บาท แต่ราคาต้นทุนของขนม (ซึ่งผู้จ้างต้องเตรียมมาให้นี้)เพิ่มเป็นเท่าตัว จากเดิมแป้งข้าวเจ้า 1 กก. ใช้วัตถุดิบในการทำขนม 120 บาท เพิ่มเป็น 200 กว่าบาท แต่ก็ยังคงมีการจ้างทำขนมคึกคักเหมือนเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับปีผ่านมา แม้พิษเศรษฐกิจจะรุมเร้า
ทั้งนี้ ประธานกลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเกตรีทำขนมพื้นเมือง เล่าว่า เทศกาลฮารีรายอนั้น ชาวมุสลิมจะทำขนมพื้นเมืองไว้สำหรับรับแขกและไว้สำหรับเป็นของฝาก หลากหลายชนิด ทั้งขนมทองพับ ขนมไข่ ขนมรังต้อ ขนมมะเฟือง โรตีกรอบ ขนมไข่เต่า หรือมะหมอด ขนมรากพร้าว ข้าวต้มใบกระพ้อ และขนมพื้นที่เมืองอีกหลากหลายชนิดที่นิยมทำไว้ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายอ
สำหรับขนมทองพับที่มีการทำล่วงหน้านานนั้น เพราะขนมชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน และหากจะนำขนมเค้กมารับแขกหรือเป็นของฝากในช่วงเทศกาลวันฮารีรายอนั้นก็สามารถทำได้แต่ไม่ได้รับความนิยม
วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจังหวัดสตูลที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ต่างเริ่มลงมือทำขนมทองพับ เตรียมไว้รับแขกและไว้เป็นของฝากในวันฮารีรายอ ที่จะมีการเฉลิมฉลองขึ้นหลังเสร็จสิ้นการถือศิลอด ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่รวมตัวขึ้นเพื่อรับจ้างทำขนมพื้นเมืองชนิดนี้ สร้างงาน สร้างรายได้ และมุสลิมบางครัวเรือนก็ทำกันเองที่บ้าน
ด้าน นางฮาหวา กองพล อายุ 60 ปี ประธานกลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเกตรีทำขนมพื้นเมือง กล่าวหลังทำขนมทองพับว่า เมื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอน ก็ได้มีการรวมกลุ่มเพื่อทำขนมทองพับ หรือภาษาท้องถิ่นเรียกว่า โกยสเปด หรือกาเปด รองรับการจ้างทำขนมของเพื่อนบ้านในพื้นที่ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสตรีที่ตกงาน รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์การทำขนมพื้นเมืองที่ใกล้จะหารับประทานยากในอนาคตหากไม่มีคนทำ ขนมก็จะเลือนหายไป เพราะคนบางส่วนได้ออกหางานทำนอกบ้าน อีกทั้งยังเป็นการฝึกสร้างความอดทน สร้างความสามัคคีกันในกลุ่ม
สำหรับค่าแรงที่ทางกลุ่มเรียกนั้นยังอยู่ในราคาปกติเหมือนปีที่ผ่านมา คือ แป้งข้าวเจ้าจำนวน 1 กก. ราคาค่าจ้าง 120 บาท แต่ราคาต้นทุนของขนม (ซึ่งผู้จ้างต้องเตรียมมาให้นี้)เพิ่มเป็นเท่าตัว จากเดิมแป้งข้าวเจ้า 1 กก. ใช้วัตถุดิบในการทำขนม 120 บาท เพิ่มเป็น 200 กว่าบาท แต่ก็ยังคงมีการจ้างทำขนมคึกคักเหมือนเดิมเมื่อเปรียบเทียบกับปีผ่านมา แม้พิษเศรษฐกิจจะรุมเร้า
ทั้งนี้ ประธานกลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเกตรีทำขนมพื้นเมือง เล่าว่า เทศกาลฮารีรายอนั้น ชาวมุสลิมจะทำขนมพื้นเมืองไว้สำหรับรับแขกและไว้สำหรับเป็นของฝาก หลากหลายชนิด ทั้งขนมทองพับ ขนมไข่ ขนมรังต้อ ขนมมะเฟือง โรตีกรอบ ขนมไข่เต่า หรือมะหมอด ขนมรากพร้าว ข้าวต้มใบกระพ้อ และขนมพื้นที่เมืองอีกหลากหลายชนิดที่นิยมทำไว้ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายอ
สำหรับขนมทองพับที่มีการทำล่วงหน้านานนั้น เพราะขนมชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน และหากจะนำขนมเค้กมารับแขกหรือเป็นของฝากในช่วงเทศกาลวันฮารีรายอนั้นก็สามารถทำได้แต่ไม่ได้รับความนิยม
