ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมการติดตามผลการปฎิบัติงานและการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าตรวจสอบการบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เผยได้แจ้งความร้องทุกข์นายทุนเจ้าของโครงการหรูบริเวณเขากมลาไปแล้ว 3 โครงการ
วันนี้ (16 ก.ย.) พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามผลการปฎิบัติงานและการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ และผู้ที่ก่อสร้างโรงแรมหรืออาคารสูง โดยฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามประกาศกฎกระทรวงฯ เรื่องพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ก็เพื่อติดตามการปฎิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่ว่ามีปัญหาข้อขัดข้อง หรือจะให้ช่วยเหลืออะไรบ้างจากการที่ได้ลงพื้นที่และบินสำรวจพื้นที่ป่ารอบเกาะภูเก็ต และได้มีการสั่งการให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบการก่อสร้างในพื้นที่โซนซี หรือพื้นที่อนุรักษ์ รวมถึงการทำผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ตลอดจนการบุกรุกชายหาดของกลุ่มนายทุน
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้รับรายงานว่า ทั้ง 3 เรื่องนั้นทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสนธิกำลังในการตรวจสอบ และในบางส่วนก็ได้มีการแจ้งร้องทุกข์และมีการสั่งระงับการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบที่มาของการขออนุญาต ตลอดจนเอกสารสิทธิที่นำมาขออนุญาต
โครงการที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว คือ โครงการภาริสา จำนวน 15 หลัง และโครงการเคปซูน จำนวน 11 หลัง โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ เกี่ยวการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 นอกจากนี้ยังได้มีการติดตามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ลงทุนและให้เป็นไปตามการบังคับใช้กฎหมาย
“ส่วนของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินและ น.ส.3 ก.ในระหว่างปี 2544-2545 จำนวนประมาณ 4,000 แปลง ว่าถูกต้องหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว
วันนี้ (16 ก.ย.) พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามผลการปฎิบัติงานและการบังคับใช้กฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ และผู้ที่ก่อสร้างโรงแรมหรืออาคารสูง โดยฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามประกาศกฎกระทรวงฯ เรื่องพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.ภูเก็ต
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ก็เพื่อติดตามการปฎิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่ว่ามีปัญหาข้อขัดข้อง หรือจะให้ช่วยเหลืออะไรบ้างจากการที่ได้ลงพื้นที่และบินสำรวจพื้นที่ป่ารอบเกาะภูเก็ต และได้มีการสั่งการให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบการก่อสร้างในพื้นที่โซนซี หรือพื้นที่อนุรักษ์ รวมถึงการทำผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ตลอดจนการบุกรุกชายหาดของกลุ่มนายทุน
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้รับรายงานว่า ทั้ง 3 เรื่องนั้นทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสนธิกำลังในการตรวจสอบ และในบางส่วนก็ได้มีการแจ้งร้องทุกข์และมีการสั่งระงับการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบที่มาของการขออนุญาต ตลอดจนเอกสารสิทธิที่นำมาขออนุญาต
โครงการที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว คือ โครงการภาริสา จำนวน 15 หลัง และโครงการเคปซูน จำนวน 11 หลัง โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ เกี่ยวการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 นอกจากนี้ยังได้มีการติดตามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ลงทุนและให้เป็นไปตามการบังคับใช้กฎหมาย
“ส่วนของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินและ น.ส.3 ก.ในระหว่างปี 2544-2545 จำนวนประมาณ 4,000 แปลง ว่าถูกต้องหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว
