ตรัง –สวีทโฮมเซ็นเตอร์ แหล่งจำหน่ายสินค้าครบวงจรแห่งแรกของจังหวัดตรัง เจอมรสุมเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงเปิดตัว แก้เกมกระตุ้นยอดขายเจาะกลุ่มลูกทัวร์ต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมตลาดพลาซ่าในช่วงกลางคืน และเสนอแจกโทรทัศน์สี-รถจักรยานยนต์ดึงลูกค้าที่เป็นเยาวชน วัยรุ่นและวัยทำงานทั้งจังหวัด คาดจะถึงจุดคุ้มทุนในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ทำให้ธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดตรังได้รับผลกระทบจนหลายแห่งแทบจะต้องปิดกิจการไปเลย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดภาวะเศรษฐกิจก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากทางรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ การลดราคาน้ำมันลงลิตรละเกือบ 10 บาท ทำให้ประชาชนเริ่มมาจับจ่ายซื้อของเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
นายเสริมศักดิ์ ชอบทำกิจ ผู้จัดการสวีทโฮมเซ็นเตอร์ แหล่งจำหน่ายสินค้าครบวงจร (พลาซ่า) แห่งแรกของจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังจากได้เปิดตัวกิจการเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ด้วยทุนก่อสร้างเกือบ 7 ล้านบาท ในพื้นที่ 1 ไร่ ยอมรับว่าตรงกับช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว จนทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดจำหน่ายของพ่อค้าแม่ค้า แต่ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว ประกอบกับตลาดพลาซ่าแห่งนี้ได้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง จึงส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกเริ่มกลับมาคึกคัก และมีผู้คนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
ขณะนี้จากจำนวนแผงที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 100 แผง มีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาประกอบการถึง 95% ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระยะเริ่มต้น พร้อมคาดว่าในอีก 1 ปี ตลาดพลาซ่าแห่งนี้ก็จะติดตลาด และจะคุ้มทุนในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าปลีกที่อยู่ในระดับกลาง ทั้งคุณภาพและราคาสินค้า เมื่อเทียบกับห้างค้าส่ง-ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ที่มีอยู่ 2-3 แห่งในพื้นที่จังหวัดตรัง ประกอบกับความได้เปรียบในเรื่องความหลากหลายของสินค้า ทำเลที่ตั้ง และสถานที่จอดรถ
สำหรับการดำเนินการของสวีทโฮมเซ็นเตอร์ในปัจจุบันจะอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีทั้งฝ่ายตลาดพลาซ่า และฝ่ายพ่อค้าแม่ค้า โดยทุกๆ เดือนจะมีการประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางพัฒนาและปรับปรุงตลาดให้ดีที่สุด พร้อมทั้งดึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาเข้าร่วมมากขึ้น เช่น การจัดสรรพื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือการเกษตร และการให้กลุ่มเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อหวังที่จะสร้างเถ้าแก่รายใหม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง แม้ว่าจะเป็นแค่ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กและมีกำไรไม่มาก
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ ทางตลาดพลาซ่าก็จะพิมพ์โบชัวร์เป็นภาษาอังกฤษออกไปแจกจ่ายยังบริษัททัวร์ต่างๆ พร้อมทั้งมีแนวคิดในการดึงลูกทัวร์ เข้ามาเยี่ยมชมตลาดพลาซ่าในช่วงกลางคืน ซึ่งจะเริ่มในช่วงไฮซีซัน หรือเดือนมีนาคม 2552 ขณะเดียวกันก็จะจัดทำใบปลิวแจกจ่ายออกไปยังต่างอำเภอ เพื่อเสนอโปรโมชันแจกโทรทัศน์สีเดือนละ 1 เครื่อง และจะแจกรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ในช่วงปลายปีนี้ โดยเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นเยาวชน วัยรุ่น และวัยทำงาน
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ทำให้ธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดตรังได้รับผลกระทบจนหลายแห่งแทบจะต้องปิดกิจการไปเลย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดภาวะเศรษฐกิจก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากทางรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ การลดราคาน้ำมันลงลิตรละเกือบ 10 บาท ทำให้ประชาชนเริ่มมาจับจ่ายซื้อของเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
นายเสริมศักดิ์ ชอบทำกิจ ผู้จัดการสวีทโฮมเซ็นเตอร์ แหล่งจำหน่ายสินค้าครบวงจร (พลาซ่า) แห่งแรกของจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังจากได้เปิดตัวกิจการเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ด้วยทุนก่อสร้างเกือบ 7 ล้านบาท ในพื้นที่ 1 ไร่ ยอมรับว่าตรงกับช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว จนทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดจำหน่ายของพ่อค้าแม่ค้า แต่ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว ประกอบกับตลาดพลาซ่าแห่งนี้ได้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง จึงส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกเริ่มกลับมาคึกคัก และมีผู้คนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
ขณะนี้จากจำนวนแผงที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 100 แผง มีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาประกอบการถึง 95% ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระยะเริ่มต้น พร้อมคาดว่าในอีก 1 ปี ตลาดพลาซ่าแห่งนี้ก็จะติดตลาด และจะคุ้มทุนในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากเป็นธุรกิจค้าปลีกที่อยู่ในระดับกลาง ทั้งคุณภาพและราคาสินค้า เมื่อเทียบกับห้างค้าส่ง-ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ที่มีอยู่ 2-3 แห่งในพื้นที่จังหวัดตรัง ประกอบกับความได้เปรียบในเรื่องความหลากหลายของสินค้า ทำเลที่ตั้ง และสถานที่จอดรถ
สำหรับการดำเนินการของสวีทโฮมเซ็นเตอร์ในปัจจุบันจะอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีทั้งฝ่ายตลาดพลาซ่า และฝ่ายพ่อค้าแม่ค้า โดยทุกๆ เดือนจะมีการประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางพัฒนาและปรับปรุงตลาดให้ดีที่สุด พร้อมทั้งดึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาเข้าร่วมมากขึ้น เช่น การจัดสรรพื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือการเกษตร และการให้กลุ่มเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อหวังที่จะสร้างเถ้าแก่รายใหม่ให้เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง แม้ว่าจะเป็นแค่ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กและมีกำไรไม่มาก
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ ทางตลาดพลาซ่าก็จะพิมพ์โบชัวร์เป็นภาษาอังกฤษออกไปแจกจ่ายยังบริษัททัวร์ต่างๆ พร้อมทั้งมีแนวคิดในการดึงลูกทัวร์ เข้ามาเยี่ยมชมตลาดพลาซ่าในช่วงกลางคืน ซึ่งจะเริ่มในช่วงไฮซีซัน หรือเดือนมีนาคม 2552 ขณะเดียวกันก็จะจัดทำใบปลิวแจกจ่ายออกไปยังต่างอำเภอ เพื่อเสนอโปรโมชันแจกโทรทัศน์สีเดือนละ 1 เครื่อง และจะแจกรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ในช่วงปลายปีนี้ โดยเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นเยาวชน วัยรุ่น และวัยทำงาน