ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สภาอุตสาหกรรมภาคใต้ ระบุหากให้ “สมัคร สุนทรราช” กลับมาเป็นนายกฯ เชื่อประเทศต้องพังทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคใต้ชี้ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้การท่องเที่ยวทรุด
นายโอฬาร อุยะกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว หากพรรคร่วมรัฐบาลยังสนับสนุนให้นายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตนเชื่อว่าประเทศมีแต่พังทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม เพราะเป็นคนที่มีความแข็งกร้าวไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใครๆ ดื้อ ถือทิฐิ แล้วการบริหารงานที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ กทม.และนายกฯ 7 เดือน ไม่มีผลงานให้ประจักษ์ให้ต่างชาติและนักลงทุนเชื่อมั่นแต่อย่างใด
“สภาอุตสาหกรรมไม่ได้เลือกข้างใครจะไปใครจะมาบริหารประเทศ ขอเพียงให้เป็นคนที่มีผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน เป็นที่ยอมรับของคนในประเทศและต่างชาติ และให้ยกเลิก พรก.ฉุกเฉินให้เร็วที่สุดเพราะกรุงเทพฯ คือประเทศไทย ต่างชาติมีความหวาดกลัวมาก เกรงว่าเมื่อเข้ามาแล้วไม่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงขั้นประกาศภาวะฉุกเฉิน”
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ไม่ต้องการให้นายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีก เพราะเป็นคนไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นแล้ว ยังพูดจาแดกดัน ไม่เคยมาดูแลภาคใต้ทั้งปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาการท่องเที่ยว ไม่เคยมาเยี่ยมถามไถ่ว่าอยู่กันอย่างไร แต่ภาษีเก็บจากธุรกิจการท่องเที่ยวไปเต็มๆ อยากได้นายกฯ ของประเทศไทย
นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้รับผลกระทบจากการกระทำของรัฐบาลในห้วงเวลาที่ผ่านมา เช่นการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การสร้างความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ ทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
ทั้งที่ อปท.หลายแห่งได้พยายามส่งเสริมสนับสนุนทั้งงบประมาณและสถานที่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยว ที่จะส่งผลให้เกิดรายได้กับทุกภาคส่วน ดังนั้นใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พรรคการเมืองทุกพรรคต้องตรึกตรองให้ดี คนที่สามารถลดความขัดแย้งในสังคมได้ การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ต่างชาติเชื่อถือ ซื่อสัตย์ และทีสำคัญต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที เพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศ
นายโอฬาร อุยะกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เปิดเผยว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว หากพรรคร่วมรัฐบาลยังสนับสนุนให้นายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตนเชื่อว่าประเทศมีแต่พังทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม เพราะเป็นคนที่มีความแข็งกร้าวไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใครๆ ดื้อ ถือทิฐิ แล้วการบริหารงานที่ผ่านมาตั้งแต่เป็นผู้ว่าฯ กทม.และนายกฯ 7 เดือน ไม่มีผลงานให้ประจักษ์ให้ต่างชาติและนักลงทุนเชื่อมั่นแต่อย่างใด
“สภาอุตสาหกรรมไม่ได้เลือกข้างใครจะไปใครจะมาบริหารประเทศ ขอเพียงให้เป็นคนที่มีผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน เป็นที่ยอมรับของคนในประเทศและต่างชาติ และให้ยกเลิก พรก.ฉุกเฉินให้เร็วที่สุดเพราะกรุงเทพฯ คือประเทศไทย ต่างชาติมีความหวาดกลัวมาก เกรงว่าเมื่อเข้ามาแล้วไม่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงขั้นประกาศภาวะฉุกเฉิน”
นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ไม่ต้องการให้นายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯ อีก เพราะเป็นคนไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นแล้ว ยังพูดจาแดกดัน ไม่เคยมาดูแลภาคใต้ทั้งปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาการท่องเที่ยว ไม่เคยมาเยี่ยมถามไถ่ว่าอยู่กันอย่างไร แต่ภาษีเก็บจากธุรกิจการท่องเที่ยวไปเต็มๆ อยากได้นายกฯ ของประเทศไทย
นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้รับผลกระทบจากการกระทำของรัฐบาลในห้วงเวลาที่ผ่านมา เช่นการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การสร้างความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ ทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
ทั้งที่ อปท.หลายแห่งได้พยายามส่งเสริมสนับสนุนทั้งงบประมาณและสถานที่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยว ที่จะส่งผลให้เกิดรายได้กับทุกภาคส่วน ดังนั้นใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พรรคการเมืองทุกพรรคต้องตรึกตรองให้ดี คนที่สามารถลดความขัดแย้งในสังคมได้ การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ต่างชาติเชื่อถือ ซื่อสัตย์ และทีสำคัญต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที เพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศ