ตรัง – รถไฟหยุดให้บริการประชาชนมากว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลระทบต่อการท่องเที่ยว จ.ตรัง ทำให้ต้องหยุดชะงัก โครงการสุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 -9 ก.ย. นี้
วันนี้(5 ก.ย.) นายกฤษณา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ ยังถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังมากนัก เนื่องจากความวุ่นวายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนจังหวัดตรังความเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่มีความรุนแรงโดยอยู่ในขอบเขต ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบของประชาธิปไตย
ในเรื่องของรถไฟหยุดวิ่ง ถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางโดยรถไฟเข้ามายังจังหวัดตรัง ประมาณ 20 % หรือประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารดังกล่าว เป็นจำนวนที่อยู่ในช่วงก่อนฤดูกาลท่องเที่ยว แต่หากเป็นในช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยวนั้น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถไฟมากถึง 80 % เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบการเดินทางโดยรถไฟ
การหยุดเดินรถไฟหากเป็นระยะเวลาสั้นๆ ยังสามารถแก้ปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนยานพาหนะได้ ซึ่งถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นโชคดีของจังหวัดตรัง ที่สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เครื่องบิน หรือรถทัวร์ รถบัส ที่มีให้บริการอย่างเพียงพอ ต่อความต้องการของผู้โดยสาร
นายกฤษณา กล่าวอีกว่า หากรถไฟมีการหยุดวิ่งเป็นเวลานาน ก็จะเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากแน่นอน เนื่องจากภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยว นำมาเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ เลือกสถานที่ท่องเที่ยว แม้ขณะนี้ภาพลักษณ์ของจังหวัดตรัง เป็นที่เชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทุกด้าน และถือเป็นความโชคดีที่มีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในขณะนี้
ที่สำคัญของการหยุดเดินรถไฟในช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ก็คือ การหยุดชะงักโครงการสุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน ที่จะต้องมีขึ้นในระหว่างวันที่ 5 - 9 กันยายนนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงก่อนฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้น ให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาท่องเที่ยว จังหวัดตรังเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม หากมีการทำประชามติกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ คาดว่าจะยิ่งส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆ ยืดเยื้อออกไปเป็นเวลานาน ซึ่งถือว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมทั้งจังหวัดตรัง เนื่องจากสถานการณ์จะยุติช้าลง และจะเป็นส่วนที่จะส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
วันนี้(5 ก.ย.) นายกฤษณา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ ยังถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบ ต่อภาพรวมของการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังมากนัก เนื่องจากความวุ่นวายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนจังหวัดตรังความเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่มีความรุนแรงโดยอยู่ในขอบเขต ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบของประชาธิปไตย
ในเรื่องของรถไฟหยุดวิ่ง ถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางโดยรถไฟเข้ามายังจังหวัดตรัง ประมาณ 20 % หรือประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารดังกล่าว เป็นจำนวนที่อยู่ในช่วงก่อนฤดูกาลท่องเที่ยว แต่หากเป็นในช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยวนั้น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถไฟมากถึง 80 % เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบการเดินทางโดยรถไฟ
การหยุดเดินรถไฟหากเป็นระยะเวลาสั้นๆ ยังสามารถแก้ปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนยานพาหนะได้ ซึ่งถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นโชคดีของจังหวัดตรัง ที่สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เครื่องบิน หรือรถทัวร์ รถบัส ที่มีให้บริการอย่างเพียงพอ ต่อความต้องการของผู้โดยสาร
นายกฤษณา กล่าวอีกว่า หากรถไฟมีการหยุดวิ่งเป็นเวลานาน ก็จะเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากแน่นอน เนื่องจากภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยว นำมาเป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ เลือกสถานที่ท่องเที่ยว แม้ขณะนี้ภาพลักษณ์ของจังหวัดตรัง เป็นที่เชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทุกด้าน และถือเป็นความโชคดีที่มีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในขณะนี้
ที่สำคัญของการหยุดเดินรถไฟในช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ก็คือ การหยุดชะงักโครงการสุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน ที่จะต้องมีขึ้นในระหว่างวันที่ 5 - 9 กันยายนนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงก่อนฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้น ให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาท่องเที่ยว จังหวัดตรังเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม หากมีการทำประชามติกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ คาดว่าจะยิ่งส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆ ยืดเยื้อออกไปเป็นเวลานาน ซึ่งถือว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมทั้งจังหวัดตรัง เนื่องจากสถานการณ์จะยุติช้าลง และจะเป็นส่วนที่จะส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
