ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และพันธมิตรฯประกาศไม่สลายการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต จนกว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และลาออกไป
เมื่อเวลา 19.30 น.วันนี้ (4 ก.ย.) บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน ได้อ่านแถลงการณ์แสดงถึงจุดยืนของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน และกลุ่มพันธมิตรฯ ภูเก็ต ระบุว่า เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 ก.ย.2551 ที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนำพระราชกำหนด “ภาวะฉุกเฉิน” มาใช้ในเขตกรุงเทพมหานาคร โดยอ้างเหตุผลว่าขณะนี้พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร มีผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองได้สร้างความวุ่นวาย เกิดการจลาจล นำอาวุธมาใช้ต่อสู้กันทำให้เกิดการบาดเจ็บและเลือดตกยางออกเป็นจำนวนมาก เพื่อต้องการไม่ให้เหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ต้องบานปลาย และขยายกว้างไปเรื่อยๆ และเพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำของประเทศจึงมีความจำเป็นต้องนำพระราชกำหนด “ภาวะฉุกเฉิน” ฉบับนี้มาใช้
กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต ขอแถลงว่า สถานการณ์ที่เกิดความรุนแรงนี้ ความจริงแล้วสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มาจากรัฐบาลเอง รัฐบาลต้องการให้มีสถานการณ์นี้ ก็เพื่อสยบความเคลื่อนไหวและการต่อต้านของกลุ่มมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นั่นเอง นายสมัคร ต้องการรักษาอำนาจของตัวเองไว้ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการนายสมัคร กับคณะมาเป็นผู้บริหารประเทศชาติอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้น กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดิน และพันธมิตรเพื่อประชาชนประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต จึงขอประกาศว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ นายสมัคร สุนทรเวช นำพระราชกำหนด “ภาวะฉุกเฉิน” นี้มาใช้ เพราะความเป็นจริงแล้ว ขณะนี้บ้านเมืองก็ไม่มีความวุ่นวาย หรือมีสถานการณ์ที่เลวร้ายแต่อย่างใด มีแต่ประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมเพื่อต้องการขับไล่ นายสมัคร กับคณะออกจากการเป็นผู้บริหารประเทศด้วยความสงบ สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้น
เพื่อความเจริญของประเทศชาติ ไม่ว่าทางด้านเศรษฐกิจการมาลงทุน หรือมาท่องเที่ยวในประเทศของเราต่อชาวต่างชาติ ความผาสุกของประชาชนที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรฯ ภูเก็ต ขอประกาศอีกครั้ง ว่า นายสมัคร สุนทรเวช ต้องยกเลิกการใช้พระราชกำหนด “ภาวะฉุกเฉิน” นี้ทันที และ นายสมัคร พร้อมคณะต้องลาออกจากการเป็นผู้บริหารประเทศในทันที่เช่นเดียวกัน หาก นายสมัคร ไม่ยกเลิก และลาออก กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรฯ ภูเก็ต อาจจะไม่สลายหรือยกเลิกการชุมนุม
นายณัชจรงค์ กล่าวภายหลังอ่านคำแถลงการณ์ จบว่า “เรายังปักหลักกันอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตต่อไป จะไม่ถอนการชุมนุม เพื่อที่จะขับไล่รัฐบาลนอมินี ในขณะเดียวกัน ตอนนี้เรามีแนวร่วมเพิ่มขึ้น ทั้งสหภาพแรงงานของโรงแรม ผู้ใช้แรงงานในจังหวัดภูเก็ต นิสิตนักศึกษา ที่เข้ามาร่วมกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรฯมากขึ้น และขอเชิญชวนชาวภูเก็ต ทุกอาชีพ ทุกคน ร่วมแสดงพลังอันบริสุทธิ์ โดยการร่วมชุมนุมภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างมิติใหม่ของการเมืองภาคประชาชนให้กับนักการเมืองในระดับประเทศ ระดับท้องถิ่นได้ทราบ ว่าคนภูเก็ตก็มีปากมีเสียงเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งหรือว่าการทำอะไรของนักการเมือง ชาวภูเก็ตแทบจะไม่มีส่วนในการตัดสินใจตรงนั้น