กระบี่ - นายกท่องเที่ยวกระบี่ เผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน วอนทุกฝ่ายอย่าเลือกข้าง ตามนายกฯสมัคร ชี้บ้านเมืองบอบช้ำ ถึงเวลาเยียวยา
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ หากว่าแพร่ไปยังต่างชาติ ตนเชื่อว่า จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอนเฉพาะจังหวัดกระบี่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเกิดความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย แต่หากว่าเหตุการณ์สงบเร็วก็คงจะกระทบเพียงในระยะสั้นๆ เท่านั้น ถึงทุกคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือน ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ก็จะเริ่มอีกครั้ง
นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า หากถามว่า ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายหรือไม่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็คงจะตอบได้เลยว่า เสียหายอย่างแน่นอนต่อสายตาของชาวต่างประเทศ แต่ก็ขอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งก็เชื่อว่าประชาคมโลกก็คงจะเข้าใจได้เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ใช้สิทธิที่สามารถทำได้ ถ้ารัฐบาลไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปปราบปราม แต่หากว่าต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรง ก็จะทบต่อการท่องเที่ยวในระยะยาวด้วย ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาเป็นภาพลักษณ์ที่ดี
“ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองอย่าไปยึดติดกับอำนาจมากนัก ถอยได้ก็ควรถอยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ วันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่รู้ว่าเล่นอะไรกัน น่าจะเล่นเกมที่เด็กๆ ดูแล้วเป็นความภาคภูมิใจในประเทศมากกว่า ที่จะมาเล่นกันในเรื่องของอำนาจที่ไม่เหมาะสม สังคมเยาวชนก็แย่ลงทุกทีไม่ได้ดูแลอย่างเต็มที่เพราะมัวแต่บ้าอำนาจ ช่วงชิงอำนาจ คนระดับล่างก็อยู่ลำบาก และที่สำคัญจะไปสอนลูกสอนหลานได้อย่างไรว่าอยู่กันให้มีความสามัคคีรักใคร่ปรองดองกันในเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ได้สามัคคีกันเลย”
นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาของสมาคม ก็จะบอกกับนักท่องเที่ยว ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามหลักของประชาธิปไตย ซึ่งจะอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ต้องรอดูเหตุการณ์เพียงอย่างเดียว สมาคมก็คงจะทำได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องของตลาดและความเชื่อมั่น จึงอยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสงบโดยเร็ว อย่าเผชิญหน้ากัน
นอกจากนี้ นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าให้เลือกข้างนั้น นายกท่องเที่ยว ได้กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่วันที่จะมาเลือกข้าง ให้ทุกคนอยู่ข้างประเทศไทย เพราะหากว่าไปอยู่ข้างนายกฯสมัคร หรือข้างพันธมิตรฯมันไม่ถูกต้อง จริงๆ เราต้องเลือกข้างประเทศไทย และวันนี้จุดบอดของผู้มีอำนาจ ก็คือ มองแต่จุดดีของตัวเองมากไป ไม่ได้มองสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งก็มีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และถามว่า ใครแพ้ประเทศชาติแพ้ ไม่มีรัฐบาลชนะ หรือพันธมิตรฯชนะ ประเทศชาติแพ้ จึงขอให้ทุกคนอย่าเลือกข้างตามนายกฯสมัคร
นายอมฤต กล่าวว่า แต่ถ้าหากว่าจะเลือกข้างก็ให้เลือกข้างประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะวันนี้เป็นการแสดงออกถึงประชาธิปไตย รัฐบาลจะทำอะไรก็ทำไปแต่อย่าให้เกิดความรุนแรงและอย่าให้ประชาชนเลือกข้างอย่างเด็ดขาด ถ้าเลือกข้างแล้วมันจะยุ่งเหยิงความสามัคคีก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
นอกจากนี้ หากรัฐบาลจะสลายกลุ่มพันธมิตรฯ อย่าทำอย่างเด็ดขาด น่าจะพูดจากันได้ หากว่าสลายก็ต้องเกิดความรุนแรงอย่างแน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลดีไม่มีเลยมีแต่ผลเสีย และก็มีแต่ผู้แพ้ สังคมกำลังแย่อยู่แล้วอย่าให้มันแย่ไปกว่านี้เลย
ส่วนทางออก ต้องถอยจะลาออกหรืออะไรก็ได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลประกาศอยู่เสมอว่าไม่ยึดติดกับอำนาจ ล่างไพ่ไปเลยก็ได้จะยุบสภาหรือลาออกก็ยิ่งดี ส่วนพันธมิตรฯเองก็จะต้องสลายด้วยแล้วมาคุยกัน
ทั้งนี้ เพราะวันนี้หากปล่อยไปก็ไม่มีทางออก นักวิชาการออกมาพูด ผู้ใหญ่ออกมาพูดว่าวันนี้ไม่มีทางออกหากว่าไม่ถอยแล้ว จะมีทางออกหรือรัฐบาลต้องมองความผิดของตัวเองด้วย พันธมิตรฯก็ต้องมองความผิดของตัวเองด้วย และสิ่งที่ตนเป็นห่วงมากก็คือทั้ง 2 ฝ่ายออกมาพูดว่าเทิดทูลองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่สิ่งที่ทำอยู่ตนมองว่ามันไปกันคนละทางที่พูด และใน 4-5 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยบอบช้ำมามาก ถึงเวลาที่ต้องเยียวยาไม่ใช่มาซ้ำเติม หยุดกันเถอะ
นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ หากว่าแพร่ไปยังต่างชาติ ตนเชื่อว่า จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอนเฉพาะจังหวัดกระบี่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเกิดความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย แต่หากว่าเหตุการณ์สงบเร็วก็คงจะกระทบเพียงในระยะสั้นๆ เท่านั้น ถึงทุกคนกำลังเฝ้าจับตามองอยู่ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือน ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ก็จะเริ่มอีกครั้ง
นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า หากถามว่า ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายหรือไม่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็คงจะตอบได้เลยว่า เสียหายอย่างแน่นอนต่อสายตาของชาวต่างประเทศ แต่ก็ขอว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งก็เชื่อว่าประชาคมโลกก็คงจะเข้าใจได้เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมก็ใช้สิทธิที่สามารถทำได้ ถ้ารัฐบาลไม่ใช้ความรุนแรงเข้าไปปราบปราม แต่หากว่าต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรง ก็จะทบต่อการท่องเที่ยวในระยะยาวด้วย ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาเป็นภาพลักษณ์ที่ดี
“ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองอย่าไปยึดติดกับอำนาจมากนัก ถอยได้ก็ควรถอยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ วันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่รู้ว่าเล่นอะไรกัน น่าจะเล่นเกมที่เด็กๆ ดูแล้วเป็นความภาคภูมิใจในประเทศมากกว่า ที่จะมาเล่นกันในเรื่องของอำนาจที่ไม่เหมาะสม สังคมเยาวชนก็แย่ลงทุกทีไม่ได้ดูแลอย่างเต็มที่เพราะมัวแต่บ้าอำนาจ ช่วงชิงอำนาจ คนระดับล่างก็อยู่ลำบาก และที่สำคัญจะไปสอนลูกสอนหลานได้อย่างไรว่าอยู่กันให้มีความสามัคคีรักใคร่ปรองดองกันในเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ได้สามัคคีกันเลย”
นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาของสมาคม ก็จะบอกกับนักท่องเที่ยว ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามหลักของประชาธิปไตย ซึ่งจะอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ต้องรอดูเหตุการณ์เพียงอย่างเดียว สมาคมก็คงจะทำได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องของตลาดและความเชื่อมั่น จึงอยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสงบโดยเร็ว อย่าเผชิญหน้ากัน
นอกจากนี้ นายกท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าให้เลือกข้างนั้น นายกท่องเที่ยว ได้กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่วันที่จะมาเลือกข้าง ให้ทุกคนอยู่ข้างประเทศไทย เพราะหากว่าไปอยู่ข้างนายกฯสมัคร หรือข้างพันธมิตรฯมันไม่ถูกต้อง จริงๆ เราต้องเลือกข้างประเทศไทย และวันนี้จุดบอดของผู้มีอำนาจ ก็คือ มองแต่จุดดีของตัวเองมากไป ไม่ได้มองสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งก็มีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย และถามว่า ใครแพ้ประเทศชาติแพ้ ไม่มีรัฐบาลชนะ หรือพันธมิตรฯชนะ ประเทศชาติแพ้ จึงขอให้ทุกคนอย่าเลือกข้างตามนายกฯสมัคร
นายอมฤต กล่าวว่า แต่ถ้าหากว่าจะเลือกข้างก็ให้เลือกข้างประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะวันนี้เป็นการแสดงออกถึงประชาธิปไตย รัฐบาลจะทำอะไรก็ทำไปแต่อย่าให้เกิดความรุนแรงและอย่าให้ประชาชนเลือกข้างอย่างเด็ดขาด ถ้าเลือกข้างแล้วมันจะยุ่งเหยิงความสามัคคีก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
นอกจากนี้ หากรัฐบาลจะสลายกลุ่มพันธมิตรฯ อย่าทำอย่างเด็ดขาด น่าจะพูดจากันได้ หากว่าสลายก็ต้องเกิดความรุนแรงอย่างแน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลดีไม่มีเลยมีแต่ผลเสีย และก็มีแต่ผู้แพ้ สังคมกำลังแย่อยู่แล้วอย่าให้มันแย่ไปกว่านี้เลย
ส่วนทางออก ต้องถอยจะลาออกหรืออะไรก็ได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลประกาศอยู่เสมอว่าไม่ยึดติดกับอำนาจ ล่างไพ่ไปเลยก็ได้จะยุบสภาหรือลาออกก็ยิ่งดี ส่วนพันธมิตรฯเองก็จะต้องสลายด้วยแล้วมาคุยกัน
ทั้งนี้ เพราะวันนี้หากปล่อยไปก็ไม่มีทางออก นักวิชาการออกมาพูด ผู้ใหญ่ออกมาพูดว่าวันนี้ไม่มีทางออกหากว่าไม่ถอยแล้ว จะมีทางออกหรือรัฐบาลต้องมองความผิดของตัวเองด้วย พันธมิตรฯก็ต้องมองความผิดของตัวเองด้วย และสิ่งที่ตนเป็นห่วงมากก็คือทั้ง 2 ฝ่ายออกมาพูดว่าเทิดทูลองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่สิ่งที่ทำอยู่ตนมองว่ามันไปกันคนละทางที่พูด และใน 4-5 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยบอบช้ำมามาก ถึงเวลาที่ต้องเยียวยาไม่ใช่มาซ้ำเติม หยุดกันเถอะ
