ชุมพร - กลุ่มพันธมิตรฯ นับพันปิดถนนเพชรเกษมที่ชุมพร ตั้งเวทีปราศรัยด่ารัฐบาล การจราจรเส้นทางสายหลักเป็นอัมพาตนานกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนสลายตัวกลางดึกมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ สมทบพันธมิตรฯ ส่วนกลาง
กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากหลายจังหวัดทางภาคใต้กว่า 1,000 คน ภายใต้การนำของนายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดภาคใต้ ได้ไปปักหลักชุมนุมประท้วงปิดถนนทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ และนำรถยนต์ 6 ล้อ มาจอดขวางถนนทำเป็นเวทีกล่าวปราศรัย ที่บริเวณซุ้มประตูสู่ภาคใต้ ถนนเพชรเกษม หลัก กม.ที่ 490-491 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 09.00 น.ของวันที่ 26 สิงหาคม 2551 กระทั่งถึงช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศในช่วงกลางคืน บรรดาแกนนำได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ที่สร้างปัญหา มีการทุจริต คอร์รัปชันจำนวนมาก และช่วยเหลือพวกพ้อง เป็นรัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรง
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธรทั้งในและนอกเครื่องแบบเกือบ 100 นาย มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งคอยอำนวยความสะดวกและบอกเส้นทางเบี่ยงให้แก่ประชาชนที่ขับรถรถสัญจรผ่านไปมาได้ไปใช้เส้นทางเลี่ยงแทน ในขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถพ่วง 18 ล้อ ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้ จึงต้องจอดรออยู่ริมถนนและตามปั้มน้ำมันต่างๆ ในพื้นที่
กระทั่งช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันใหม่ (27 ส.ค.) แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศสลายการชุมนุมปิดถนน ซึ่งถือว่าภารกิจได้รับชัยชนะลุล่วงสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว พร้อมทั้งช่วยกันเคลื่อนย้ายเต้นท์สิ่งกีดขวางบนถนนออก และเปิดทางให้รถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านไปมาตามปกติ ซึ่งส่งผลให้ถนนเพชรเกษม ผ่าน 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งถือว่าเป็นถนนเส้นทางสายหลักต้องกลายเป็นอัมพาสนานกว่า 12 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศยุติการชุมนุมปิดถนนบนเส้นทางดังกล่าวแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด ได้ไปขึ้นรถทัวร์จำนวน 8 คัน ที่มีการว่าจ้างเหมาคันไว้แล้วเข้าไปจอดรับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด และรถยนต์กระบะส่วนตัวอีกจำนวนหลายคัน เพื่อรับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าเข้าไปสบทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลางในกรุงเทพมหานคร เพื่อประท้วงกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายยกรัฐมนตรี และรัฐบาลลาออกต่อไป
กรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากหลายจังหวัดทางภาคใต้กว่า 1,000 คน ภายใต้การนำของนายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดภาคใต้ ได้ไปปักหลักชุมนุมประท้วงปิดถนนทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ และนำรถยนต์ 6 ล้อ มาจอดขวางถนนทำเป็นเวทีกล่าวปราศรัย ที่บริเวณซุ้มประตูสู่ภาคใต้ ถนนเพชรเกษม หลัก กม.ที่ 490-491 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 09.00 น.ของวันที่ 26 สิงหาคม 2551 กระทั่งถึงช่วงกลางคืนที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศในช่วงกลางคืน บรรดาแกนนำได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ที่สร้างปัญหา มีการทุจริต คอร์รัปชันจำนวนมาก และช่วยเหลือพวกพ้อง เป็นรัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรง
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและตำรวจภูธรทั้งในและนอกเครื่องแบบเกือบ 100 นาย มาคอยรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งคอยอำนวยความสะดวกและบอกเส้นทางเบี่ยงให้แก่ประชาชนที่ขับรถรถสัญจรผ่านไปมาได้ไปใช้เส้นทางเลี่ยงแทน ในขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถพ่วง 18 ล้อ ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้ จึงต้องจอดรออยู่ริมถนนและตามปั้มน้ำมันต่างๆ ในพื้นที่
กระทั่งช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันใหม่ (27 ส.ค.) แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศสลายการชุมนุมปิดถนน ซึ่งถือว่าภารกิจได้รับชัยชนะลุล่วงสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว พร้อมทั้งช่วยกันเคลื่อนย้ายเต้นท์สิ่งกีดขวางบนถนนออก และเปิดทางให้รถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านไปมาตามปกติ ซึ่งส่งผลให้ถนนเพชรเกษม ผ่าน 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งถือว่าเป็นถนนเส้นทางสายหลักต้องกลายเป็นอัมพาสนานกว่า 12 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศยุติการชุมนุมปิดถนนบนเส้นทางดังกล่าวแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด ได้ไปขึ้นรถทัวร์จำนวน 8 คัน ที่มีการว่าจ้างเหมาคันไว้แล้วเข้าไปจอดรับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด และรถยนต์กระบะส่วนตัวอีกจำนวนหลายคัน เพื่อรับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าเข้าไปสบทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลางในกรุงเทพมหานคร เพื่อประท้วงกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายยกรัฐมนตรี และรัฐบาลลาออกต่อไป
