ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมเตรียมพร้อมรับมือการเลือกตั้งท้องถิ่น จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อย 2 นายต่อหน่วย
วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.อ.วีเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมตำรวจในระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าสถานี และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 31 สิงหาคม และ 7 กันยายนนี้ ซึ่งในส่วนของพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 9 มีการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้นใน 3 จังหวัด คือ สงขลา ตรัง และพัทลุง
พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นนอกเหนือจากจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อย 2 นายต่อหน่วยแล้ว ได้กำชับให้ตำรวจวางตัวเป็นกลาง และมอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรในแต่ละจังหวัด จัดทำแผนปฏิบัติการทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเพื่อกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธสงคราม และซุ้มมือปืน เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงที่มีผลพวงมาจากการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ตำรวจควรจะศึกษากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นให้เข้าใจ ซึ่งจะทำให้การดูแลการเลือกตั้งมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น สำหรับในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูงให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจพิจารณาในเรื่องของการวางกำลัง และการเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.อ.วีเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมตำรวจในระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าสถานี และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 31 สิงหาคม และ 7 กันยายนนี้ ซึ่งในส่วนของพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 9 มีการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้นใน 3 จังหวัด คือ สงขลา ตรัง และพัทลุง
พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นนอกเหนือจากจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งอย่างน้อย 2 นายต่อหน่วยแล้ว ได้กำชับให้ตำรวจวางตัวเป็นกลาง และมอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรในแต่ละจังหวัด จัดทำแผนปฏิบัติการทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งเพื่อกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธสงคราม และซุ้มมือปืน เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงที่มีผลพวงมาจากการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ตำรวจควรจะศึกษากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นให้เข้าใจ ซึ่งจะทำให้การดูแลการเลือกตั้งมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น สำหรับในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูงให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจพิจารณาในเรื่องของการวางกำลัง และการเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน