ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 สั่งเรือรบที่ออกปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบคุมเข้มเรือประมงต้องสงสัยเพื่อป้องกันการลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาทางทะเล มิให้เข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พลเรือโท กัมปนาท ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะศูนย์ประสานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 ซึ่งมีรับผิดชอบในทะเลอ่าวไทยจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และมีหน่วยปฏิบัติการหลัก คือ ทัพเรือภาคที่ 2 ศุลกากรภาคที่ 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้มีการประสานปฏิบัติในการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาทางทะเล
โดยได้สั่งการให้เรือรบที่ออกปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบให้ทำการคุมเข้มเรือประมงต้องสงสัยที่อาจลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาทางทะเลเขตรอยต่อน่านน้ำระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาในราชอาณาจักรทางทะเลโดยเด็ดขาด
โดยเฉพาะให้ตรวจเข้มเรือประมงดัดแปลงและเรือ 2 สัญชาติ ต้องสงสัยที่เข้าไปทำการประมงร่วมในน่านน้ำมาเลเซียที่เดินทางกลับเข้ามาในน่านน้ำไทย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ในขณะเดียวกัน ทางศุลกากรภาคที่ 4 และกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ก็ได้มีการปฏิบัติในการควบคุมดูแลในเรื่องนี้เช่นกันและได้มีการประสานการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่า จะสามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้มีการลกลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดทะลักเข้ามาทางทะเลได้
พลเรือโท กัมปนาท ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะศูนย์ประสานการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 2 ซึ่งมีรับผิดชอบในทะเลอ่าวไทยจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และมีหน่วยปฏิบัติการหลัก คือ ทัพเรือภาคที่ 2 ศุลกากรภาคที่ 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้มีการประสานปฏิบัติในการปฏิบัติงานร่วมกัน ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาทางทะเล
โดยได้สั่งการให้เรือรบที่ออกปฏิบัติการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบให้ทำการคุมเข้มเรือประมงต้องสงสัยที่อาจลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาทางทะเลเขตรอยต่อน่านน้ำระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดเข้ามาในราชอาณาจักรทางทะเลโดยเด็ดขาด
โดยเฉพาะให้ตรวจเข้มเรือประมงดัดแปลงและเรือ 2 สัญชาติ ต้องสงสัยที่เข้าไปทำการประมงร่วมในน่านน้ำมาเลเซียที่เดินทางกลับเข้ามาในน่านน้ำไทย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ในขณะเดียวกัน ทางศุลกากรภาคที่ 4 และกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ก็ได้มีการปฏิบัติในการควบคุมดูแลในเรื่องนี้เช่นกันและได้มีการประสานการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่า จะสามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้มีการลกลอบขนอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดทะลักเข้ามาทางทะเลได้
