ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของเพชรโบราณอายุกว่า 200 ปี ตั้งราคาขาย 89 ล้านบาท กับ 1 บาท นำของจริงออกมายืนยันกับสื่อมวลชน เผยหลังเปิดตัวประกาศขายมีนายหน้าติดต่อสอบถามเข้ามาแล้ว 4 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางรอซีต้า ฮาซัน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าของเครื่องประดับเพชรโบราณสมัยรัฐปัตตานี อายุกว่า 200 ปี ซึ่งถือครองมาเป็นรุ่นที่ 5 พร้อมด้วยนายอับดุลรอมัน ดอเลาะ สามีและลูกชาย 2 คนได้นำเครื่องประดับ 2 ชิ้น
ประกอบด้วย แหวนทับทิมล้อมเพชร กับสร้อยข้อมือทับทิมล้อมเพชร ของจริงมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู หลังจากที่ได้เปิดแถลงข่าวเพื่อประกาศขายเครื่องประดับดังกล่าว ในราคา 89 ล้านบาทกับ 1 บาท ซึ่งเลข 8 หมายถึงอายุของพ่อหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เลข 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9 ส่วนเลข 1 หมายถึงมีพระองค์เดียวเท่านั้น ภายหลังมีสื่อมวลชนติดต่อขอดูของจริงจำนวนมาก
นางรอซีต้า กล่าวว่า หลังจากที่ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนไปเมื่อวานนี้ (12 ส.ค.) ได้มีสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศติดต่อสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ได้มีนายหน้า 4 ราย ติดต่อสอบถามรายละเอียด และสอบถามถึงส่วนแบ่งหากสามารถขายเครื่องประดับทั้งสองชิ้นได้ ซึ่งบางรายบอกว่าจะนำไปพบกับคนซื้อที่ประเทศบรูไน แต่ตนตอบกลับไปว่าคงไม่สามารถให้ส่วนแบ่งได้ หากจะซื้อก็ให้เข้าเลย เพราะการนำออกมาขายครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเปิดขายทั่วไป
“หากไม่ใช่ของจริงคงไม่กล้าที่จะนำออกมาขายและไม่กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น เพราะมั่นใจว่าคิดดีและทำดีโดยไม่ได้เบียดเบียนใคร จึงเชื่อว่า พระอัลเลาะห์จะคุ้มครอง”
นางรอซีด้า ยังยืนยันจุดประสงค์ของการขายในครั้งนี้ ว่า ต้องการขายเพื่อการกุศลตามที่ตั้งใจไว้ คือ เพชรนี้เพื่อพ่อหลวงและการกุศล โดยลำดับแรกหากขายได้ คือ นำทูลเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชอัธยาศัยบริจาคให้มูลนิธิชัยพัฒนา บริจาคให้สภากาชาดไทย บริจาคให้มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ช่วยเหลือทหารและประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่ต้องการศึกษาเล่าเรียน สร้างสาธารณประโยชน์และสถานที่สำคัญเท่าที่จะทำได้ และให้ทุนการศึกษาแก่เด็กเรียนดี โดยไม่แบ่งชนชั้นและศาสนา
นางรอซีต้า กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ จะไม่นำเครื่องประดับทั้ง 2 ชิ้นมาเปิดให้ได้ชมอีก ยกเว้นกรณีที่มีผู้มาติดต่อขอซื้อก็ให้ไปเจอกันที่ธนาคาร
ขณะที่ นายอับดุลรอมัน ดอเลาะ สามี กล่าวว่า กรรมสิทธิ์ของเครื่องประดับนั้นถือเป็นของภรรยาโดยสมบูรณ์ ซึ่งตนไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ นับตั้งแต่มารดามอบให้กับภรรยาในวันแต่งงาน ซึ่งหากมีลูกชายเพียงคนเดียวก็จะไม่ขายโดยมอบให้เป็นมรดกตกทอด
