กระบี่ - จังหวัดกระบี่จัดกิจกรรมปลูกข้าววันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อ ฟื้นฟูอนุรักษ์การทำนา น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติฯ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 ส.ค.) ที่บ้านเกาะกลาง หมู่ที่ 1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน วันรณรงค์ “ปลูกข้าววันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ” เพื่อเทิดพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ 76 พรรษา 12 สิงหาคม 2551 และเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2551
โดยมี นายบำรุง ศรีทองใส เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรฟื้นฟูอนุรักษ์ที่นาเพื่อการบริโภค เป็นการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมีส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน นักเรียน เข้าร่วมจำนวนกว่า 300 คน
ภายในงานมีกิจกรรม นิทรรศการเรื่องเทคโนโลยีการผลิตข้าว การกรับปรุงบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การแข่งขันดำนา แข่งขันวิ่งโคลน แข่งขันฟุตบอลโคลน โดยมีนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก และในวันเดียวกันได้มีการปลูกข้าวในนา เพื่อเก็บเกี่ยวในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พื้นที่นาในจังหวัดกระบี่มีอยู่ทั้งหมด กว่า10,000ไร่ ปัจจุบันมีพื้นที่ที่ยังมีการทำนาอยู่ ประมาณ 3,400 ไร่ ซึ่งมีอยู่ใน 5 อำเภอ ด้วยกัน ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอคลองท่อม อำเภอเหนือคลอง อำเภอเกาะลันตา และอำเภอปลายพระยา ซึ่งทางจังหวัดได้มีการส่งเสริมเกษตรกร
โดยการสนับสนุนในเรื่องของเครื่องจักร และพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงการการส่งเสริมตามหลักวิชาการทางด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีข้าวบริโภค และเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น จะเห็นได้ว่า เกษตรกรหันมาทำนากันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ทำนาเพื่อการบริโภค ดังนั้นเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์การทำนา ในพื้นที่นาของเกษตรกรที่มีอยู่เดิม ปลูกข้าวเลี้ยงชีพ จึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของเกษตรกร และเป็นการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ดังนั้นทางจังหวัดจึงได้จัดกิจกรรมปลูกข้าววันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้ฟื้นฟูและอนุรักษ์ที่นาเพื่อเป็นมรดกตกทอดต่อไป
