นราธิวาส – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมปลอบขวัญและมอบนโยบายกำลังพลที่ จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่แรก ระบุพร้อมสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ เชื่อสามารถควบคุมไฟใต้ได้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปยังสนามหน้าโรงเรียนระแงะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อปฏิบัติภารกิจเป็นที่หมายแรกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย
โดยได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จากนายประคอง คงแก้ว นายอำเภอระแงะ รวมทั้งผลการปฏิบัติของกองกำลังจาก พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 โดยมี นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต.นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.นราธิวาส และหัวหน้ากองกำลังทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 13 อำเภอ จำนวนกว่า 30 นาย เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรายรอบอย่างหนาแน่น
โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมลับที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องรวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.โกวิท รองนายกฯ และ มท.1 ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมทุกภาคส่วนให้ผนึกกำลังกันด้วยความเข้าใจและมีความสามัคคีกันให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงแม้สถานการณ์ความไม่สงบจะมีแนวโน้มลดความรุนแรงลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่อย่าได้ประมาท และหากมีข้อขัดข้องหรือต้องการการสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก็ขอให้แจ้งให้ทราบ ตนเองพร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
โดยในส่วนของการคลี่คลายคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวัง มีการรักษาวัตถุพยานที่ตรวจพบในจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด และให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากพยานบุคคลเป็นพื้นฐานสำคัญด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีความสามัคคีกันและปฏิบัติได้ตามนโยบายที่มอบให้จะนำไปสู่ความร่วมมือจากประชาชนและทุกฝ่าย และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งนำไปสูความสงบสุขได้ในที่สุด
ภายหลังประชุมแล้วเสร็จ พล.ต.อ.โกวิท ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลซึ่งประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ลูกเสือชาวบ้าน รวมทั้งครูและนักเรียนเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมกับได้มอบเครื่องบริโภคเป็นอาหารแห้งแก่กองกำลัง และมอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนระแงะ ซึ่งสร้างความดีอกดีใจแก่กำลังพลทุกนาย เพราะที่ผ่านมา รัฐมนตรีที่กำกับดูแลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในสมัยรัฐบาลสมัคร 1 ไม่เคยลงมาเยี่ยมเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.โกวิท พร้อมคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมกับเจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปยังสนามหน้าโรงเรียนระแงะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อปฏิบัติภารกิจเป็นที่หมายแรกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย
โดยได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จากนายประคอง คงแก้ว นายอำเภอระแงะ รวมทั้งผลการปฏิบัติของกองกำลังจาก พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 โดยมี นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต.นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.นราธิวาส และหัวหน้ากองกำลังทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 13 อำเภอ จำนวนกว่า 30 นาย เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรายรอบอย่างหนาแน่น
โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมลับที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องรวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.โกวิท รองนายกฯ และ มท.1 ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมทุกภาคส่วนให้ผนึกกำลังกันด้วยความเข้าใจและมีความสามัคคีกันให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ถึงแม้สถานการณ์ความไม่สงบจะมีแนวโน้มลดความรุนแรงลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่อย่าได้ประมาท และหากมีข้อขัดข้องหรือต้องการการสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก็ขอให้แจ้งให้ทราบ ตนเองพร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
โดยในส่วนของการคลี่คลายคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวัง มีการรักษาวัตถุพยานที่ตรวจพบในจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด และให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จากพยานบุคคลเป็นพื้นฐานสำคัญด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีความสามัคคีกันและปฏิบัติได้ตามนโยบายที่มอบให้จะนำไปสู่ความร่วมมือจากประชาชนและทุกฝ่าย และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งนำไปสูความสงบสุขได้ในที่สุด
ภายหลังประชุมแล้วเสร็จ พล.ต.อ.โกวิท ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลซึ่งประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ลูกเสือชาวบ้าน รวมทั้งครูและนักเรียนเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมกับได้มอบเครื่องบริโภคเป็นอาหารแห้งแก่กองกำลัง และมอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนระแงะ ซึ่งสร้างความดีอกดีใจแก่กำลังพลทุกนาย เพราะที่ผ่านมา รัฐมนตรีที่กำกับดูแลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในสมัยรัฐบาลสมัคร 1 ไม่เคยลงมาเยี่ยมเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.โกวิท พร้อมคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมกับเจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป