สุราษฎร์ธานี - จังหวัดสุราษฎร์ธานีขอให้ผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ถังก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงหยุดกระทำการ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากการถ่ายเทได้ คาดโทษพบผู้กระทำผิดจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายดำริห์ บุญจริง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันประชาชนผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งจำนวนมากได้ทำการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แทนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการคมนาคมขนส่ง ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการบรรจุก๊าซเปิดให้บริการสถานีบริการก๊าซแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายแห่ง
แต่จากการตรวจสอบ พบว่า ยังมีประชาชนผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งบางส่วนยังใช้ก๊าซจากถังก๊าซหุงต้มต่อเป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ หรือถ่ายเทก๊าซจากถังก๊าซหุงต้มสู่ถังก๊าซรถยนต์ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ จ.สุราษฎร์ธานี จึงขอให้ผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ถังก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงหยุดกระทำการเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากการถ่ายเทได้ และการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมีโทษตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการณ์ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายดำริห์ บุญจริง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันประชาชนผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งจำนวนมากได้ทำการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แทนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการคมนาคมขนส่ง ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการบรรจุก๊าซเปิดให้บริการสถานีบริการก๊าซแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีหลายแห่ง
แต่จากการตรวจสอบ พบว่า ยังมีประชาชนผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งบางส่วนยังใช้ก๊าซจากถังก๊าซหุงต้มต่อเป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ หรือถ่ายเทก๊าซจากถังก๊าซหุงต้มสู่ถังก๊าซรถยนต์ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ จ.สุราษฎร์ธานี จึงขอให้ผู้ใช้รถยนต์และผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ถังก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงหยุดกระทำการเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากการถ่ายเทได้ และการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมีโทษตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการณ์ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ