ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตสั่งทุกส่วนราชการและหน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวังการชุมนุมทางการเมืองที่อาจเกิดการประจันหน้ากันได้อย่างใกล้ชิด สั่งหาข่าวการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น พร้อมเฝ้าระวังสถานที่ราชการอย่างใกล้ชิดป้องกันเหตุรุนแรงเกิดในพื้นที่
นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการวางมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดการประจันหน้าหรือทำร้ายร่างกายกันของกลุ่มมวลชน ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมเป็นจำนวนมากว่า ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดทุกจังหวัดซ้อมการปฏิวัติการในการดูแลไม่ให้เกิดการประจันหน้าของกลุ่มมวลชนในแต่ละจังหวัด
โดยมีแนวทางในการปฏิบัติ 2 แนวทางด้วยกัน คือ หากมีการชุมนุมทางการเมืองให้มีการประสานกับผู้ชุมนุมในการจัดพื้นที่ให้เหมาะสมไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติราชการ และหากมีการชุมนุมหลายกลุ่มและเป็นกลุ่มตรงกันข้ามให้วางมาตรการโดยการจัดคนลงแต่ละพื้นที่ป้องกันการประจันหน้าและการทำร้ายกันและกัน
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นได้มีการสั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและอำเภอทั้ง 3 อำเภอแล้ว ให้สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากหัวหน้าส่วนราชการให้แจ้งความเคลื่อนไหวหากมีการชุมนุมให้ทราบก่อนและให้ระมัดระวังสถานที่ราชการที่แยกออกจากศาลากลางจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมทางการเมืองหากอยู่ในกรอบก็สามารถทำได้
ขณะที่ นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการหาข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเข้มข้นและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่าอาจจะมีการแตกหักได้ จึงฝากให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งหามาตรการในการดูแลสถานที่ราชการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุดคือการหาข่าวการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หากหน่วยงานราชการทราบการเคลื่อนไหวก็ให้รายงานทัน
นายปิยะ ภะรตะศิลปิน ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการวางมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดการประจันหน้าหรือทำร้ายร่างกายกันของกลุ่มมวลชน ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุมเป็นจำนวนมากว่า ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดทุกจังหวัดซ้อมการปฏิวัติการในการดูแลไม่ให้เกิดการประจันหน้าของกลุ่มมวลชนในแต่ละจังหวัด
โดยมีแนวทางในการปฏิบัติ 2 แนวทางด้วยกัน คือ หากมีการชุมนุมทางการเมืองให้มีการประสานกับผู้ชุมนุมในการจัดพื้นที่ให้เหมาะสมไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติราชการ และหากมีการชุมนุมหลายกลุ่มและเป็นกลุ่มตรงกันข้ามให้วางมาตรการโดยการจัดคนลงแต่ละพื้นที่ป้องกันการประจันหน้าและการทำร้ายกันและกัน
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นได้มีการสั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและอำเภอทั้ง 3 อำเภอแล้ว ให้สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากหัวหน้าส่วนราชการให้แจ้งความเคลื่อนไหวหากมีการชุมนุมให้ทราบก่อนและให้ระมัดระวังสถานที่ราชการที่แยกออกจากศาลากลางจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมทางการเมืองหากอยู่ในกรอบก็สามารถทำได้
ขณะที่ นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการหาข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเข้มข้นและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่าอาจจะมีการแตกหักได้ จึงฝากให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งหามาตรการในการดูแลสถานที่ราชการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุดคือการหาข่าวการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หากหน่วยงานราชการทราบการเคลื่อนไหวก็ให้รายงานทัน