นครศรีธรรมราช - ม่ายสาวเมืองคอนใช้แตงกวาลูกใหญ่สอดใส่ช่องคลอด หักติดในอักเสบ วิ่งโร่ให้แพทย์ รพ.มหาราชช่วย หมอเตือนสุภาพสตรีใช้สิ่งของสอดใส่อวัยวะต้องระมัดระวังและคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัยด้วย
สำหรับเหตุการณ์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากในโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 19 ก.ค. 2551 ประชาชนจำนวนมากที่เดินทางไปเฝ้าและเยี่ยมญาติๆ ที่ป่วยรักษาตัวอยู่ใน รพ.มหาราช ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เล่าลือกันอย่างกว้างขวางจากกรณีที่มีผู้ป่วยสาวใหญ่คนหนึ่งเดินทางมายังโรงพยาบาลมหาราช เมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ค.2551 ที่ผ่านมา และขอให้แพทย์ช่วยนำสิ่งแปลกปลอมคือแตงกวาลูกใหญ่ที่หักติดอยู่ในช่องคลอดออกจากช่องคลอดให้ด้วย โดยในเบื้องต้นแพทย์ได้ทำการตรวจพบว่าในช่องคลอดของหญิงสาวคนดังกล่าวมีแตงกวาหักติดแน่นอยู่จึงใช้เครื่องมือแพทย์คีบออกมาได้
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง รพ.มหาราช เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่แพทย์และพยาบาลไม่สามารถเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม รวมทั้งภูมิลำเนาที่อยู่อาศัยของคนไข้รายดังกล่าวได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้ป่วยคนดังกล่าวจนอาจจะไม่สามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมได้ตามปกติ แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์แพทย์จึงขอฝากเตือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ที่คิดจะใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ใช้ความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับนายแพทย์สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช เพื่อสอบถามความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามนายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ หรือ “หมอไก่” ผู้บริหารโรงพยาบาลนครพัฒน์ โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การใช้วัสดุอุปกรณ์เพื่อสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้นในต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ผู้หญิงในต่างประเทศสามารถเลือกซื้ออวัยวะเพศเทียมมาสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ได้อย่างเปิดเผย แต่ในสังคมไทยยังไม่ยอมรับในเรื่องเหล่านี้และเป็นถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายถูกตั้งข้อรังเกียจ ผู้หญิงไทยจึงต้องปกปิดเรื่องในลักษณะนี้ ดังนั้น เมื่อมีอารมณ์ความต้องการทางเพศจึงมักจะหยิบฉวยวัสดุอุปกรณ์ที่พอจะหาได้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับช่องคลอดและอวัยวะเพศได้
“สำหรับคนไข้รายนี้ที่ใช้แตงกวาและหักติดอยู่ในช่องคลอด ในความเป็นจริงน่าจะเอาออกเองได้ แต่ผู้ป่วยอาจจะใช้แตงกวาขนาดใหญ่เกินไปและคงจะตกใจมากที่แตงกวาหักติดในช่องคลอดจนอาจจะทำให้เกิดการบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอดจนไม่สามารถนำแตงกวาออกเองได้ และรีบเดินทางมาพบแพทย์เพื่อให้ช่วยเอาแตงกว่าออกให้ดังกล่าว”
นายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ กล่าวอีกว่า อยากจะแนะนำผู้หญิงทั่วๆ ไปว่า หากจำเป็นที่จะต้องสำเร็จความใคร่โดยใช้วัสดุอุปกรณ์มาช่วยเสริมนั้น สิ่งที่ควรคำนึงและระมัดระวัง คือ ชนิดและขนาดของวัสดุที่จะใช้ ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไปและจะต้องไม่ใช่ของแข็ง และต้องไม่มีเหลี่ยม หรือความคมที่ทำให้ช่องคลอดฉีกขาด ที่สำคัญวัสดุดังกล่าวต้องมีความยืดหยุ่นได้พอสมควร เรื่องของความสะอาดผู้ใช้จะต้องทำความสะอาดให้ดีที่สุด เนื่องจากในอวัยวะเพศมีสภาพที่ติดเชื้อได้ง่ายมาก การกระทำเมื่อสอดใส่เข้าไปแล้ว ต้องทำอย่างระมัดระวังไม่หักโหมรุนแรงมากเกินไป
นายแพทย์อิสระยังฝากเตือนว่าในรายนี้เลือกใช้แตงกวาแม้จะเป็นของแข็งแต่ยืดหยุ่นได้พอสมควร แต่ผลผลิตทางการเกษตรในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต หากนำมาสอดใส่ในช่องคลอดโดยไม่สะอาดเพียงพอก็จะทำให้ติดเชื้อในช่องคลอดได้ง่ายขึ้น จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย
สำหรับกรณีนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ค.2551 ได้มีผู้ป่วยคนหนึ่งเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางมาลงรถที่ป้ายจอดรถประจำทางหน้า รพ.มหาราช จากนั้นจึงเดินข้ามถนนเข้ามาในโรงพยาบาลมาอย่างอิดโรย เจ้าหน้าที่เข็นเปลคนไข้ต้องรีบออกไปประคอง และนำมาทำบัตรคนไข้โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวอายุ 36 ปี เป็นแม่ม่ายเลิกรากับสามีมานาน 6 ปีแล้ว เมื่อช่วง 2 วันก่อนมาโรงพยาบาลมีอารมณ์ทางเพศ จึงนำแตงกวาลูกใหญ่เส้นรอบวงประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 10 นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศเพื่อสำเร็จความใคร่ แต่ทำให้แตงกวาหักติดอยู่ในช่องคลอดยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ผู้ป่วยรายนี้พยายามที่จะใช้มือล้วงเข้าไปในช่องคลอดเพื่อดึงแตงกวาออกแต่ไม่สามารถนำออกมาได้ แม้ผู้ป่วยรายนี้จะพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาแตงกวาออก แต่ไม่สำเร็จจนช่องคลอดและอวัยวะเพศเกิดการอักเสบบวมเป่ง ผู้ป่วยรายนี้ตกใจเกรงว่าหากปล่อยเอาไว้อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงได้จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากแพทย์ รพ.มหาราช ให้ช่วยนำแตงกวาออกมา
นางอ้อย (ขอสงวนนามสกุล) เปิดเผยว่า ในช่วงที่สาวรายนี้ไปให้แพทย์ช่วยที่โรงพยาบาลตนไปเยี่ยมญาติที่ป่วยอยู่ที่ รพ.มหาราช และพบเห็นเหตุการณ์พอดี โดยทราบว่าแม่ม่ายสาวคนดังกล่าวเป็นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอหนึ่งในแถบลุ่มน้ำปากพนัง ในครั้งแรกเดินเข้ามาในโรงพยาบาลในลักษณะกุมหน้าท้องเอาไว้ จึงคิดว่าเจ็บท้องคลอด แต่ท้องไม่ใหญ่เหมือนคนท้องโดยทั่วไป จนเมื่อไปทำบัตรคนไข้ผู้ป่วยรายนี้ก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ บอกแค่เพียงว่าเจ็บบริเวณอวัยวะเพศและหน้าท้อง เมื่อนำเข้าห้องฉุกเฉินผู้ป่วยจึงยอมบอกเรื่องจริงโดยเล่าเรื่องให้แพทย์และพยาบาลฟังอย่างละเอียดทำให้แพทย์และนางพยาบาลถึงกับขำไม่ออก จากนั้นแพทย์และพยาบาลจึงลงมือช่วยผู้ป่วยจนสามารถเอาแตงกวาหักท่อนยาวประมาณ 4 นิ้วออกมาจากช่องคลอดของผู้ป่วยได้สำเร็จ และแพทย์ได้จัดยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อให้แก่ผู้ป่วยและแม่ม่ายคนดังกล่าวได้รีบออกจากโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว
นางอ้อย เล่าต่อว่า หลังแพทย์ช่วยเอาแตงกวาออกจากช่องคลอดผู้ป่วยรายนี้จนสำเร็จแล้ว ตนได้ยินแพทย์สั่งผู้ป่วยว่าขอให้ระมัดระวังการนำสิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด เพื่อสำเร็จความใคร่ ซึ่งจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังทั้งในเรื่องของขนาดของสิ่งที่จะนำสอดใส่เข้าในในช่องคลอด เรื่องของความสะอาด และวิธีการสอดใส่ นอกจากเรื่องการหักติดในช่องคลอดแล้ว ในเรื่องความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญให้มากๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันแตงกวา มะเขือยาว หรือพืชผักอื่นๆ นั้นจะมีกรรมวิธีการในการปลูกที่ส่วนใหญ่จะสารเคมีทั้งในส่วนของปุ๋ยและยาฆ่าแมลงทำให้มีสารเคมีตกค้างอยู่ที่ผิวของผลผลิตหากทำความสะอาดไม่ดี เมื่อนำมาสอดใส่ในช่องคลอดสารเคมีจะออกฤทธิ์ทำให้ช่องคลอดแสบร้อน คัน และอักเสษช้ำบวม เป็นหนองในที่สุดและหากไม่ไปพบแพทย์หรือพบแพทย์ช้าอาจจะส่งผลกระทบรุนแรงในระบบสืบพันธุ์ได้
“แพทย์ยังได้ฝากเตือนผู้หญิงทั่วๆ ไปว่า การสำเร็จความใคร่กระทำได้หลายวิธี หากคิดจะเลือกการใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มั่นใจในความปลอดภัย และอวัยวะเพศเทียมจะปลอดภัยกว่าการใช้แตงกวา มะเขือยาว หรือแครอต ผู้ป่วยรายนี้ยังบอกกับแพทย์ว่าใช้แตงกวาสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่มานาน 4-5 ปีแล้วไม่เคยมีปัญหา เพิ่งจะมามีปัญหาหักติดในช่องคลอดเป็นครั้งแรก” นางอ้อยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข่าวคราวในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนนี้ เมื่อหนุ่มใหญ่ชาว ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เกิดคิดพิเรนทร์ใช้นอตตัวเมียขนาดใหญ่สวมเป็นปลอกเข้าไปในที่อวัยวะเพศของตัวเอง และไม่สามารถนำกลับออกมาได้ ส่งผลให้อวัยวะเพศซ้ำบวมอย่างหนัก เพื่อนๆ ต้องช่วยกันหามส่ง รพ.ทุ่งสง ก่อนส่งต่อมายัง รพ.มหาราช ในครั้งนั้นนายแพทย์ประวิง เอื้อนนนทัช ต้องคิดหนักในการหาทางนำน็อตออกจากอวัยวะเพศ เพราะหากใช้หินเจียรนอตออกความร้อนอาจจะทำลายระบบประสาทที่อวัยวะเพศจนหมดสมรรถภาพทางเพศใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต ในที่สุดตัดสินใจฉีดยาชาก่อนจะดึงนอตออกจนอวัยวะเพศฉีกและใช้วีการรักษาแผลเอาภายหลัง ซึ่งอวัยวะเพศของหนุ่มพิเรนทร์สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ตกเป็นข่าวใหญ่โตเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางสนุกปากมาแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากในโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 19 ก.ค. 2551 ประชาชนจำนวนมากที่เดินทางไปเฝ้าและเยี่ยมญาติๆ ที่ป่วยรักษาตัวอยู่ใน รพ.มหาราช ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เล่าลือกันอย่างกว้างขวางจากกรณีที่มีผู้ป่วยสาวใหญ่คนหนึ่งเดินทางมายังโรงพยาบาลมหาราช เมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ค.2551 ที่ผ่านมา และขอให้แพทย์ช่วยนำสิ่งแปลกปลอมคือแตงกวาลูกใหญ่ที่หักติดอยู่ในช่องคลอดออกจากช่องคลอดให้ด้วย โดยในเบื้องต้นแพทย์ได้ทำการตรวจพบว่าในช่องคลอดของหญิงสาวคนดังกล่าวมีแตงกวาหักติดแน่นอยู่จึงใช้เครื่องมือแพทย์คีบออกมาได้
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง รพ.มหาราช เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่แพทย์และพยาบาลไม่สามารถเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม รวมทั้งภูมิลำเนาที่อยู่อาศัยของคนไข้รายดังกล่าวได้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้ป่วยคนดังกล่าวจนอาจจะไม่สามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมได้ตามปกติ แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์แพทย์จึงขอฝากเตือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ที่คิดจะใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ใช้ความระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับนายแพทย์สมชาย นิ้มวัฒนากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช เพื่อสอบถามความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามนายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ หรือ “หมอไก่” ผู้บริหารโรงพยาบาลนครพัฒน์ โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การใช้วัสดุอุปกรณ์เพื่อสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนั้นในต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ผู้หญิงในต่างประเทศสามารถเลือกซื้ออวัยวะเพศเทียมมาสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ได้อย่างเปิดเผย แต่ในสังคมไทยยังไม่ยอมรับในเรื่องเหล่านี้และเป็นถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายถูกตั้งข้อรังเกียจ ผู้หญิงไทยจึงต้องปกปิดเรื่องในลักษณะนี้ ดังนั้น เมื่อมีอารมณ์ความต้องการทางเพศจึงมักจะหยิบฉวยวัสดุอุปกรณ์ที่พอจะหาได้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับช่องคลอดและอวัยวะเพศได้
“สำหรับคนไข้รายนี้ที่ใช้แตงกวาและหักติดอยู่ในช่องคลอด ในความเป็นจริงน่าจะเอาออกเองได้ แต่ผู้ป่วยอาจจะใช้แตงกวาขนาดใหญ่เกินไปและคงจะตกใจมากที่แตงกวาหักติดในช่องคลอดจนอาจจะทำให้เกิดการบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อในช่องคลอดจนไม่สามารถนำแตงกวาออกเองได้ และรีบเดินทางมาพบแพทย์เพื่อให้ช่วยเอาแตงกว่าออกให้ดังกล่าว”
นายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ กล่าวอีกว่า อยากจะแนะนำผู้หญิงทั่วๆ ไปว่า หากจำเป็นที่จะต้องสำเร็จความใคร่โดยใช้วัสดุอุปกรณ์มาช่วยเสริมนั้น สิ่งที่ควรคำนึงและระมัดระวัง คือ ชนิดและขนาดของวัสดุที่จะใช้ ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไปและจะต้องไม่ใช่ของแข็ง และต้องไม่มีเหลี่ยม หรือความคมที่ทำให้ช่องคลอดฉีกขาด ที่สำคัญวัสดุดังกล่าวต้องมีความยืดหยุ่นได้พอสมควร เรื่องของความสะอาดผู้ใช้จะต้องทำความสะอาดให้ดีที่สุด เนื่องจากในอวัยวะเพศมีสภาพที่ติดเชื้อได้ง่ายมาก การกระทำเมื่อสอดใส่เข้าไปแล้ว ต้องทำอย่างระมัดระวังไม่หักโหมรุนแรงมากเกินไป
นายแพทย์อิสระยังฝากเตือนว่าในรายนี้เลือกใช้แตงกวาแม้จะเป็นของแข็งแต่ยืดหยุ่นได้พอสมควร แต่ผลผลิตทางการเกษตรในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต หากนำมาสอดใส่ในช่องคลอดโดยไม่สะอาดเพียงพอก็จะทำให้ติดเชื้อในช่องคลอดได้ง่ายขึ้น จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย
สำหรับกรณีนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ค.2551 ได้มีผู้ป่วยคนหนึ่งเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางมาลงรถที่ป้ายจอดรถประจำทางหน้า รพ.มหาราช จากนั้นจึงเดินข้ามถนนเข้ามาในโรงพยาบาลมาอย่างอิดโรย เจ้าหน้าที่เข็นเปลคนไข้ต้องรีบออกไปประคอง และนำมาทำบัตรคนไข้โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวอายุ 36 ปี เป็นแม่ม่ายเลิกรากับสามีมานาน 6 ปีแล้ว เมื่อช่วง 2 วันก่อนมาโรงพยาบาลมีอารมณ์ทางเพศ จึงนำแตงกวาลูกใหญ่เส้นรอบวงประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 10 นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศเพื่อสำเร็จความใคร่ แต่ทำให้แตงกวาหักติดอยู่ในช่องคลอดยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ผู้ป่วยรายนี้พยายามที่จะใช้มือล้วงเข้าไปในช่องคลอดเพื่อดึงแตงกวาออกแต่ไม่สามารถนำออกมาได้ แม้ผู้ป่วยรายนี้จะพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาแตงกวาออก แต่ไม่สำเร็จจนช่องคลอดและอวัยวะเพศเกิดการอักเสบบวมเป่ง ผู้ป่วยรายนี้ตกใจเกรงว่าหากปล่อยเอาไว้อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงได้จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากแพทย์ รพ.มหาราช ให้ช่วยนำแตงกวาออกมา
นางอ้อย (ขอสงวนนามสกุล) เปิดเผยว่า ในช่วงที่สาวรายนี้ไปให้แพทย์ช่วยที่โรงพยาบาลตนไปเยี่ยมญาติที่ป่วยอยู่ที่ รพ.มหาราช และพบเห็นเหตุการณ์พอดี โดยทราบว่าแม่ม่ายสาวคนดังกล่าวเป็นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่อำเภอหนึ่งในแถบลุ่มน้ำปากพนัง ในครั้งแรกเดินเข้ามาในโรงพยาบาลในลักษณะกุมหน้าท้องเอาไว้ จึงคิดว่าเจ็บท้องคลอด แต่ท้องไม่ใหญ่เหมือนคนท้องโดยทั่วไป จนเมื่อไปทำบัตรคนไข้ผู้ป่วยรายนี้ก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ บอกแค่เพียงว่าเจ็บบริเวณอวัยวะเพศและหน้าท้อง เมื่อนำเข้าห้องฉุกเฉินผู้ป่วยจึงยอมบอกเรื่องจริงโดยเล่าเรื่องให้แพทย์และพยาบาลฟังอย่างละเอียดทำให้แพทย์และนางพยาบาลถึงกับขำไม่ออก จากนั้นแพทย์และพยาบาลจึงลงมือช่วยผู้ป่วยจนสามารถเอาแตงกวาหักท่อนยาวประมาณ 4 นิ้วออกมาจากช่องคลอดของผู้ป่วยได้สำเร็จ และแพทย์ได้จัดยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อให้แก่ผู้ป่วยและแม่ม่ายคนดังกล่าวได้รีบออกจากโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว
นางอ้อย เล่าต่อว่า หลังแพทย์ช่วยเอาแตงกวาออกจากช่องคลอดผู้ป่วยรายนี้จนสำเร็จแล้ว ตนได้ยินแพทย์สั่งผู้ป่วยว่าขอให้ระมัดระวังการนำสิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด เพื่อสำเร็จความใคร่ ซึ่งจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังทั้งในเรื่องของขนาดของสิ่งที่จะนำสอดใส่เข้าในในช่องคลอด เรื่องของความสะอาด และวิธีการสอดใส่ นอกจากเรื่องการหักติดในช่องคลอดแล้ว ในเรื่องความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญให้มากๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันแตงกวา มะเขือยาว หรือพืชผักอื่นๆ นั้นจะมีกรรมวิธีการในการปลูกที่ส่วนใหญ่จะสารเคมีทั้งในส่วนของปุ๋ยและยาฆ่าแมลงทำให้มีสารเคมีตกค้างอยู่ที่ผิวของผลผลิตหากทำความสะอาดไม่ดี เมื่อนำมาสอดใส่ในช่องคลอดสารเคมีจะออกฤทธิ์ทำให้ช่องคลอดแสบร้อน คัน และอักเสษช้ำบวม เป็นหนองในที่สุดและหากไม่ไปพบแพทย์หรือพบแพทย์ช้าอาจจะส่งผลกระทบรุนแรงในระบบสืบพันธุ์ได้
“แพทย์ยังได้ฝากเตือนผู้หญิงทั่วๆ ไปว่า การสำเร็จความใคร่กระทำได้หลายวิธี หากคิดจะเลือกการใช้สิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดก็ควรเลือกใช้วัสดุที่มั่นใจในความปลอดภัย และอวัยวะเพศเทียมจะปลอดภัยกว่าการใช้แตงกวา มะเขือยาว หรือแครอต ผู้ป่วยรายนี้ยังบอกกับแพทย์ว่าใช้แตงกวาสอดใส่ในช่องคลอดเพื่อสำเร็จความใคร่มานาน 4-5 ปีแล้วไม่เคยมีปัญหา เพิ่งจะมามีปัญหาหักติดในช่องคลอดเป็นครั้งแรก” นางอ้อยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข่าวคราวในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนนี้ เมื่อหนุ่มใหญ่ชาว ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เกิดคิดพิเรนทร์ใช้นอตตัวเมียขนาดใหญ่สวมเป็นปลอกเข้าไปในที่อวัยวะเพศของตัวเอง และไม่สามารถนำกลับออกมาได้ ส่งผลให้อวัยวะเพศซ้ำบวมอย่างหนัก เพื่อนๆ ต้องช่วยกันหามส่ง รพ.ทุ่งสง ก่อนส่งต่อมายัง รพ.มหาราช ในครั้งนั้นนายแพทย์ประวิง เอื้อนนนทัช ต้องคิดหนักในการหาทางนำน็อตออกจากอวัยวะเพศ เพราะหากใช้หินเจียรนอตออกความร้อนอาจจะทำลายระบบประสาทที่อวัยวะเพศจนหมดสมรรถภาพทางเพศใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต ในที่สุดตัดสินใจฉีดยาชาก่อนจะดึงนอตออกจนอวัยวะเพศฉีกและใช้วีการรักษาแผลเอาภายหลัง ซึ่งอวัยวะเพศของหนุ่มพิเรนทร์สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ตกเป็นข่าวใหญ่โตเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางสนุกปากมาแล้ว