ปลัด ก.ทรัพย์ ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจพื้นที่นายทุนรุกป่าเลน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจสอบการป่าชายเลนที่บ้านกูกู้ ที่ถูกนายทุนอ้างมีเอกสารสิทธิประมาณ 100 ไร่ ให้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้องและจังหวัดดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมปลูกป่าเพิ่มในส่วนที่อยู่นอกเอกสารสิทธิ

วันนี้ (7 ก.ค.) นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายองอาจ ชนะชาญมงคล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายยุทธศิลป์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 (ภูเก็ต) ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งถูกบุกรุก และมีนายทุนรายหนึ่งอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าว เนื้อที่รวมประมาณ 100 ไร่ และได้มีการเข้าไปปรับพื้นที่ส่งผลให้ต้นโกงกางตายเป็นจำนวนมาก บริเวณหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พร้อมด้วยคณะ และ นายสมหมาย เจริญศรี ประธานกลุ่มชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา ให้การต้อนรับพร้อมนำตรวจพื้นที่ซึ่งมีการบุกรุก

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวภายหลังการลงดูพื้นที่ซึ่งมีการบุกรุกดังกล่าว ว่า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวส่วนหนึ่งมีการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง ซึ่งในการดำเนินการจะแบ่งออกเป็น 2-3 ส่วน โดยในเรื่องของการพิสูจน์สิทธิ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมป่าไม้ได้ให้ข้อมูล รวมทั้งประสานแจ้งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งก็ดำเนินการกันไปตามขั้นตอน

ส่วนของพื้นที่นอกเขตการอ้างกรรมสิทธิ์ เพื่อรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของป่าชายเลนให้อุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน จะได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ โดยให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมกับกรมป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต และสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 (ภูเก็ต) ปลูกป่าชายเลนเสริมเพิ่มเติมจากที่ประชาชนได้ดำเนินการไว้แล้ว นอกจากนี้ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ จะมีการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2551 ทางกระทรวงก็จะได้ร่วมกับทางจังหวัดจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ในเรื่องของการกำหนดผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลน นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และให้วิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนดำรงควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ กระทรวงฯ ก็จะเข้ามาดูพื้นที่อีกครั้ง เช่น การขุดลอกร่องน้ำ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นประโยน์กับพี่น้องประชาชนในการทำประมงพื้นบ้าน และน้ำจะเข้ามาหล่อเลี้ยงความเจริญต้นไม้ได้ ทั้งนี้ จะได้มีการหารือร่วมกับทางเทศบาลตำบลรัษฎา และกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน ในรายละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีการบุกรุกที่แปลงดังกล่าว ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นของการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนของกระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการแจ้งรายละเอียดไปแล้ว โดยทางกระทรวง พร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่างเพื่อประกอบการดำเนินการ