ยะลา - โฆษก ทบ.ชี้ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามใช้ความโหดเหี้ยม หลังพบว่าประชาชนให้ความร่วมมือกับทางราชการมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร กอ.รมน.ภาค 4 และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายลงมือก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และตำรวจรถไฟเสียชีวิตที่ผ่านมาว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้พยายามในทุกวิธีทางที่แสดงความโหดเหี้ยมในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเกรงกลัวต่อกลุ่ม
หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ได้หันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการมากขึ้น เพราะฝ่ายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่กลัวมากที่สุด คือการปิดล้อม ตรวจค้น เพราะทำให้เกิดความสูญเสียกำลังพลระดับแกนนำที่เป็นผู้สั่งการหรือควบคุมการปฏิบัติการเป็นจำนวนมาก และยังทำให้การสั่งการต่างๆ ขาดตอนไปด้วย
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการหรือผู้ที่กำลังจะออกห่างจากกลุ่มของเขาเกิดความเกรงกลัว จึงได้ออกมาปฏิบัติการในลักษณะที่มีความรุนแรงและโหดเหี้ยมมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธีใหม่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด
เห็นจากกรณีที่กลุ่มคนร้ายที่ได้ปฏิบัติการโหดยิง เจ้าหน้าที่การรถไฟและเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟที่ผ่านมา ปรากฏว่าการให้การสนับสนุนจากแนวร่วมในพื้นที่มีน้อยลง คนร้ายที่กระโดดลงจากขบวนรถไฟ ซึ่งหวังว่าจะมีแนวร่วมมารับตัวไป แต่ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดมารับไป ทำให้ต้องหลบหนี จนท.อย่างทุลักทุเล และทิ้งอาวุธปืน อาก้า ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก และยึดปืนพกของ จนท.ตำรวจที่เสียชีวิตกลับมาได้อีก 1 กระบอกด้วย ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ ทำให้ทหารมีพื้นที่เป้าหมายแคบลง ซึ่งสามารถที่เข้าไปปิดล้อม ตรวจค้นได้ง่ายขึ้น
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร กอ.รมน.ภาค 4 และโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายลงมือก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และตำรวจรถไฟเสียชีวิตที่ผ่านมาว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้พยายามในทุกวิธีทางที่แสดงความโหดเหี้ยมในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเกรงกลัวต่อกลุ่ม
หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ได้หันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการมากขึ้น เพราะฝ่ายกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่กลัวมากที่สุด คือการปิดล้อม ตรวจค้น เพราะทำให้เกิดความสูญเสียกำลังพลระดับแกนนำที่เป็นผู้สั่งการหรือควบคุมการปฏิบัติการเป็นจำนวนมาก และยังทำให้การสั่งการต่างๆ ขาดตอนไปด้วย
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการหรือผู้ที่กำลังจะออกห่างจากกลุ่มของเขาเกิดความเกรงกลัว จึงได้ออกมาปฏิบัติการในลักษณะที่มีความรุนแรงและโหดเหี้ยมมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธีใหม่ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด
เห็นจากกรณีที่กลุ่มคนร้ายที่ได้ปฏิบัติการโหดยิง เจ้าหน้าที่การรถไฟและเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟที่ผ่านมา ปรากฏว่าการให้การสนับสนุนจากแนวร่วมในพื้นที่มีน้อยลง คนร้ายที่กระโดดลงจากขบวนรถไฟ ซึ่งหวังว่าจะมีแนวร่วมมารับตัวไป แต่ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดมารับไป ทำให้ต้องหลบหนี จนท.อย่างทุลักทุเล และทิ้งอาวุธปืน อาก้า ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก และยึดปืนพกของ จนท.ตำรวจที่เสียชีวิตกลับมาได้อีก 1 กระบอกด้วย ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ ทำให้ทหารมีพื้นที่เป้าหมายแคบลง ซึ่งสามารถที่เข้าไปปิดล้อม ตรวจค้นได้ง่ายขึ้น
