นราธิวาส - โจรใต้แฝงตัวเป็นผู้โดยสาร ใช้อาวุธปืน อาก้า 11 มม. 9 มม.กราดยิงเจ้าหน้าที่การรถไฟเสียชีวิต 3 ราย พร้อมตำรวจรถไฟอีก 1 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่รถไฟสายใต้เสียขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก
วันนี้( 21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่การรถไฟ บริเวณสถานีรถไฟมะรือโบตก บ.กาแดะ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที โดยเมื่อเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นตรวจสอบขบวนรถไฟสายสุไหงโก-ลก-นครศรีธรรมราช พบผู้เสียชีวิต 4 ราย คือเจ้าหน้าที่ทางการรถไฟ 3 ราย คือ นายวิชาย ฉายามนตรี นายสถานีรถไฟเจาะไอร้อง นายพิพัฒน์ กล่อมจิต ผู้รักษาการรถไฟ และนายวัชระศักดิ์ จันทร์หนูนก จากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ 1 ราย คือ ส.ต.ต.สงพงษ์ ยิ่งสุขมนตรี
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายมากกว่า 5 คนทำทีเป็นผู้โดยสารขึ้นมาบนขบวนรถไฟดังกล่าว จากนั้นเมื่อขบวนรถไฟแล่นออกจากสถานีมะรือโบตกได้ระยะหนึ่ง คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนอาก้า 11 มม. และ 9 มม. กราดยิง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และจากนั้นได้ใช้ช่วงรถไฟหยุดวิ่งกระโดดหลบหนี
หลังจากเกิดเหตุขึ้นรถไฟขบวนดังกล่าวได้หยุดวิ่งชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ อีกทั้งเจ้าหน้าที่มีการสนธิกำลังออกไล่ล่าคนร้ายที่คาดว่าจะหลบหนีไปในพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คารดเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
นายมานพ เหมือนเดช นายสถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่การรถไฟที่ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถไฟ จนมีเจ้าหน้าที่ทางการรถไฟเสียชีวิต 3 รายและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 รายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความสะเทือนขวัญให้กับเจ้าหน้าที่การรถไฟที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่อย่างมาก ซึ่งทุกคนที่อยู่ในพื้นที่รู้สึกเสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ากลุ่มคนร้ายต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่การรถไฟโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มก่อความไม่สงบเองอาจจะขึ้นมาตรวจสอบขบวนรถไฟทุกขบวนแล้วและเลือกก่อเหตุกับขบวนนี้เนื่องจากในช่วงเย็นจะมีผู้โดยสารมาก เจ้าหน้าที่จึงไม่ทันระวังตัวและไม่มีใครสังเกตผู้โดยสาร
นายสถานีรถไฟตันหยงมัสกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้นั้นยังไม่แน่ใจว่ารถไฟสายใต้จะวิ่งตามปกติหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากส่วนใหญ่เสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก โดยในวันพรุ่งนี้ขบวนแรกที่จะวิ่งออกจากสถานีสุไหงโก-ลกไปยังสุราษฎธานี ซึ่งหากยังคงวิ่งตามปกติก้อจะต้องดูแลความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น