ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตลาดรถยนต์ภูเก็ตโตสวนกระแสน้ำมันแพง ยอดขายทั้งค่ายฮอนด้าและโตโยต้าไม่ลดลงแม้น้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ยอดจองเดือนละ 200-400 คัน เหตุเพราะเศรษฐกิจและท่องเที่ยวภูเก็ตยังดี แต่จะเลือกใช้รถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน และรถยนต์ที่ตรงต่อการใช้งานมากกว่าที่เลือกซื้อรถยนต์รุ่นใหญ่
แหล่งข่าวฝ่ายขายจากบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา กล่าวถึงตลาดรถยนต์ภูเก็ตในภาวะน้ำมันราคาแพง ว่า จากที่ราคาน้ำมันขยับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำตลาดรถยนต์ฮอนด้าในภูเก็ตและพังงามากนัก เพราะยอดจองและยอดขายในแต่ละเดือนทั้ง 3 โชว์รูมไม่ได้ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้แต่อย่างใด โดยยอดขายจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 200 กว่าคัน
“จากที่ได้พูดคุยกับลูกค้าที่มาจองรถยนต์ลูกค้าก็พูดถึงเรื่องน้ำมันแพงเหมือนกัน แต่ก็ยังซื้อรถยนต์เพราะจำเป็นต้องใช้ในการประกอบธุรกิจ และใช้งาน ระกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภูเก็ตไม่ได้ตกต่ำมาก ยังการท่องเที่ยวก็กำลังขยายตัวจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก ทำให้คนภูเก็ตยังมีกำลังซื้ออยู่เหมือนเดิม”
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะหันมาสนใจซื้อรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น โดยรุ่นตั้งแต่ซีวิค ลงมาจนถึงรุ่นซิตี้ และแจ๊ซขายได้ดีมาก เพราะประหยัดน้ำมัน ส่วนรถรุ่นใหญ่ยังขายได้แต่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อนานกว่าเก่า
แหล่งข่าวระบุอีกว่า หากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังดีตลอด ยอดขายรถยนต์ฮอนด้าทั้ง 3 โชว์รูม ทั้งที่โชว์รูมถนนเจ้าฟ้าตะวันออก โชว์รูมในตัวเมืองภูเก็ต และโชว์รูมจังหวัดพังง าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน โดยปีนี้อยู่ที่ 2,000 กว่าคัน ซึ่งผ่านมาเกือบ 5 เดือนมียอดขายแล้ว 900 คัน
แหล่งข่าวฝ่ายขายจากบริษัท โตโยต้าเพิร์ล จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์โตโยต้าในภูเก็ตมากนัก เนื่องจากขณะนี้ยอดขายรถยนต์โตโยต้า ทั้งที่เป็นรถเก๋งและรถกระบะไม่ได้ลดลง ยอดจองยังอยู่ในจำนวนใกล้เคียงกับช่วงที่ราคาน้ำมันไม่ได้สูงมากอย่างปัจจุบันนี้ โดยยอดจองจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 400 กว่าคัน
ทั้งนี้ น่าจะเนื่องจากลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไม่ได้คำนึงถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คำนึงถึงความจำเป็นในการใช้รถมากกว่า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภูเก็ตยังดี ไม่ซบเซาเหมือนหลายๆจังหวัด จากที่การท่องเที่ยวของภูเก็ตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวระบุต่อว่า ปีนี้ตลอดทั้งปีทางโตโยต้าเพิร์ล ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 คัน ซึ่งคาดว่าน่าที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หากราคาน้ำมันไม่ขยับตัวเพิ่มกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก แต่หากราคาน้ำมันขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากๆ อาจจะมีผลต่อเป้าหมายที่วางไว้บ้าง โดยลูกค้าจะหันมาเลือกซื้อรถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน เช่น รุ่นวีออส ซึ่งประหยัดน้ำมันจะได้รับการตอบรับที่ดีมาก และหากเป็นรถกระบะที่ลูกค้าซื้อไปเพื่อใช้ในการค้าขายหรือกิจการต่างๆ ก็จะเลือกรุ่นตอนครึ่งที่ประหยัดน้ำมันเช่นกัน
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท สยาม นิสสัน ภูเก็ต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันในภูเก็ต กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์นิสสันในภูเก็ตมาก ยอดขายลดลงถึง 40% จากเดิมที่ยอดขายอยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 20 คัน ตอนนี้ลดเหลือเดือนละ 10 กว่าคันเท่านั้น ซึ่งราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อรถช้าลง และใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของภูเก็ตจะดีจากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น
“ลูกค้าจะเลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ประหยัดน้ำมัน และเลือกซื้อรถเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินจริงๆ อย่างกรณีของรถกระบะจะเลือกซื้อเป็นรถกระบะตอนเดียว เพื่อใช้ในการบรรทุกสินค้าจริงๆ ส่วนรถรุ่นหรูที่ไม่ค่อยประหยัดน้ำมันเท่าที่ควรจะขายออกยากมาก” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวฝ่ายขายจากบริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา กล่าวถึงตลาดรถยนต์ภูเก็ตในภาวะน้ำมันราคาแพง ว่า จากที่ราคาน้ำมันขยับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำตลาดรถยนต์ฮอนด้าในภูเก็ตและพังงามากนัก เพราะยอดจองและยอดขายในแต่ละเดือนทั้ง 3 โชว์รูมไม่ได้ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้แต่อย่างใด โดยยอดขายจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 200 กว่าคัน
“จากที่ได้พูดคุยกับลูกค้าที่มาจองรถยนต์ลูกค้าก็พูดถึงเรื่องน้ำมันแพงเหมือนกัน แต่ก็ยังซื้อรถยนต์เพราะจำเป็นต้องใช้ในการประกอบธุรกิจ และใช้งาน ระกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภูเก็ตไม่ได้ตกต่ำมาก ยังการท่องเที่ยวก็กำลังขยายตัวจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก ทำให้คนภูเก็ตยังมีกำลังซื้ออยู่เหมือนเดิม”
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะหันมาสนใจซื้อรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น โดยรุ่นตั้งแต่ซีวิค ลงมาจนถึงรุ่นซิตี้ และแจ๊ซขายได้ดีมาก เพราะประหยัดน้ำมัน ส่วนรถรุ่นใหญ่ยังขายได้แต่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อนานกว่าเก่า
แหล่งข่าวระบุอีกว่า หากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังดีตลอด ยอดขายรถยนต์ฮอนด้าทั้ง 3 โชว์รูม ทั้งที่โชว์รูมถนนเจ้าฟ้าตะวันออก โชว์รูมในตัวเมืองภูเก็ต และโชว์รูมจังหวัดพังง าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน โดยปีนี้อยู่ที่ 2,000 กว่าคัน ซึ่งผ่านมาเกือบ 5 เดือนมียอดขายแล้ว 900 คัน
แหล่งข่าวฝ่ายขายจากบริษัท โตโยต้าเพิร์ล จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์โตโยต้าในภูเก็ตมากนัก เนื่องจากขณะนี้ยอดขายรถยนต์โตโยต้า ทั้งที่เป็นรถเก๋งและรถกระบะไม่ได้ลดลง ยอดจองยังอยู่ในจำนวนใกล้เคียงกับช่วงที่ราคาน้ำมันไม่ได้สูงมากอย่างปัจจุบันนี้ โดยยอดจองจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 400 กว่าคัน
ทั้งนี้ น่าจะเนื่องจากลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไม่ได้คำนึงถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คำนึงถึงความจำเป็นในการใช้รถมากกว่า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภูเก็ตยังดี ไม่ซบเซาเหมือนหลายๆจังหวัด จากที่การท่องเที่ยวของภูเก็ตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวระบุต่อว่า ปีนี้ตลอดทั้งปีทางโตโยต้าเพิร์ล ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,000 คัน ซึ่งคาดว่าน่าที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หากราคาน้ำมันไม่ขยับตัวเพิ่มกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก แต่หากราคาน้ำมันขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากๆ อาจจะมีผลต่อเป้าหมายที่วางไว้บ้าง โดยลูกค้าจะหันมาเลือกซื้อรถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน เช่น รุ่นวีออส ซึ่งประหยัดน้ำมันจะได้รับการตอบรับที่ดีมาก และหากเป็นรถกระบะที่ลูกค้าซื้อไปเพื่อใช้ในการค้าขายหรือกิจการต่างๆ ก็จะเลือกรุ่นตอนครึ่งที่ประหยัดน้ำมันเช่นกัน
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท สยาม นิสสัน ภูเก็ต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันในภูเก็ต กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์นิสสันในภูเก็ตมาก ยอดขายลดลงถึง 40% จากเดิมที่ยอดขายอยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 20 คัน ตอนนี้ลดเหลือเดือนละ 10 กว่าคันเท่านั้น ซึ่งราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อรถช้าลง และใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของภูเก็ตจะดีจากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น
“ลูกค้าจะเลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ประหยัดน้ำมัน และเลือกซื้อรถเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินจริงๆ อย่างกรณีของรถกระบะจะเลือกซื้อเป็นรถกระบะตอนเดียว เพื่อใช้ในการบรรทุกสินค้าจริงๆ ส่วนรถรุ่นหรูที่ไม่ค่อยประหยัดน้ำมันเท่าที่ควรจะขายออกยากมาก” แหล่งข่าว กล่าว