ยะลา - เจ้าของผู้ใช้รถในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา แห่ไปเติมน้ำมันฝั่งประเทศมาเลเซีย ก่อนที่ มาเลเซียดีเดย์ใช้กฎเหล็กห้ามเติมน้ำมันรถให้กับคนไทย
นายด่านศุลกากร อำเภอเบตง จ.ยะลา ต้องประชาสัมพันธ์ให้กับเจ้าของรถยนต์ ที่เข้าออกตามบริเวณชายแดนไทย-มาเลย์ เกี่ยวกับมาตรการ การออกระเบียบห้ามเติมน้ำมันให้กับรถยนต์คนไทย ที่เข้าไปเติมน้ำมันในฝั่งมาเลเซีย ซึ่งในวันที่ 29 พ.ค.2551 เป็นวันสุดท้ายก่อนที่ทางการมาเลเซีย ออกกฎเหล็ก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.2551 เป็นต้นไป ทำให้เจ้าของรถยนต์ ทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถยนต์รับจ้าง ต่างแห่ข้ามไปเติมน้ำมันเป็นจำนวนมาก
ดาโต๊ะฮายีอับดุลการิม บิน ออสมัน นายอำเภอกริก รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า การออกกฎห้ามเติมน้ำมันให้กับคนไทยตามแนวชายแดน นั้นย่อมได้รับผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยตามบริเวณชายแดน ที่เข้าไปมาหาสู่กันอย่างหนีไม่พ้น
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลของประเทศมาเลเซีย ที่ได้ขายในราคาถูกนั้น เป็นสวัสดิการของรัฐบาลที่มอบให้กับประชาชน การที่คนไทยเข้าไปเติมน้ำมันดีเซลราคาถูกในประเทศมาเลเซีย นั้น เป็นการเอาเปรียบประชาชนชาวมาเลเซีย ดังนั้น ขอให้คนไทยต้องเข้าใจและยอมรับในเรื่องนี้ด้วย
ด้าน นายยะพา บือราเฮง เจ้าของรถสองแถว รับจ้างระหว่างด่านชายแดนกับตัวเมืองเบตง กล่าวว่า หลังจากที่มาเลเซีย ใช้กฎเหล็กห้ามเติมน้ำมันรถให้กับคนไทย ทำให้ผู้ประกอบการรถรับจ้างได้รับความเดือดร้อนแน่นอน เพราะราคาน้ำมันในประเทศ ในตลาดอำเภอเบตง นั้นมีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันในตัวเมืองยะลาลิตรละ 1 บาท เมื่อมีการห้ามคนไทยเข้าไปเติมน้ำมันแล้ว ทางผู้ประกอบการรถสองแถวรับจ้าง ต้องปรับราคาขึ้น ทันที หรือไม่ก็หันไปประกอบอาชีพอื่นกันต่อไป
สำหรับชายแดนด้านอำเภอเบตงนั้น ที่ผ่านมา ทางการได้ผ่อนปรน ให้รถยนต์ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์รับจ้าง ข้ามไปเติมน้ำมันในฝั่งมาเลเซีย อย่างอิสระ โดยไม่มีการตรวจสอบแต่อย่างใด
โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรรายหนึ่ง กล่าวว่า หากมีการเข้มงวด จะทำให้ประชาชนตามชายแดนได้รับความเดือดร้อน และการตรวจสอบน้ำมันในถังรถนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย ทำให้เจ้าของรถต้องเสียเวลามาก หากต้องนำน้ำมันในถังไปตรวจสอบ จึงได้ผ่อนปรนมาโดยตลอด แต่หลังจากทางการมาเลย์ มีกฎห้ามเติมน้ำมันให้กับคนไทย จะทำให้จำนวนรถที่ข้ามไปมาในแต่ละวันจะลดลงไปทันที