นครศรีธรรมราช - รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปูดถูกอิทธิพลมืดซุ่มขนอาวุธหนักเตรียมล่าสังหาร ร้องผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งจัดการด่วน เตรียม ร้อง มท.1 ซ้ำตรวจสอบผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ปากพนัง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะ ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้ง 10 คนเข้าพบ นายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าหารือข้อราชการ ขณะเดียวกัน ได้เข้าร้องเรียนถึงผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งได้เตรียมซ่องสุมอาวุธหนักเตรียมที่จะลอบสังหารตนเอง ว่า ได้มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งมายังตนหลายฝ่ายและต่างสอดคล้องต้องกันเชื่อได้ว่าได้มีผู้มีอิทธิพล ในอำเภอปากพนัง ได้เตรียมที่จะฆ่าตนเอง เนื่องจากปัญหาที่สำคัญ คือ เข้าไปขัดขวางการขยายอิทธิพล ที่อำเภอปากพนัง ซึ่งผู้มีอิทธิพลรายนี้ชาวบ้านไม่ได้เกรงกลัวต่อไปแล้ว แล้วเขาอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เข้าไปดำเนินการ
“ในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้ทราบว่ามีการเตรียมการถึงขั้นจะใช้อาวุธหนักถล่ม แล้วจะดำเนินการให้เสร็จในเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ได้แจ้งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเป็นเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ขณะนี้พฤติกรรมของมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะในอำเภอปากพนังนั้นไม่มีทางอื่นเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง และฝ่ายตำรวจต้องเข้าไปดูแล ข่าวนี้ไม่ใช่เข้าเฉพาะหูผมเท่านั้น เชื่อว่าทางฝ่ายบ้านเมืองโดยเฉพาะฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจต้องรู้เรื่องแล้ว ดังนั้น ควรมีมาตรการป้องกัน”
นายวิทยา กล่าวอีกว่า อิทธิพลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอิทธิพลในท้องถิ่นที่สร้างความรำคาญ มีทั้งปล้นฆ่า ข่มขู่ชาวบ้าน ในอดีตอาจได้รับความร่วมมือจากข้าราชการบางคนที่ไม่เอาไหน เมื่อบ้านเมืองดีขึ้นข้าราชการไม่เอาด้วย อิทธิพลคนคนนี้ลดลงหลายสิ่งที่ทำผิดกฎหมายมือกฎหมายเข้าไปจัดการ การจัดการนี้ต้องเข้าคุกเข้าตะรางกันทำให้เกิดการโกรธแค้น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ยืนยันได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่ความขัดแย้งเรื่องของผลประโยชน์ เป็นเรื่องภาระของผู้แทนที่ไปขัดขวางเขาในพื้นที่ และในรอบสัปดาห์นี้หากมีโอกาสจะเข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะ ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้ง 10 คนเข้าพบ นายวิชม ทองสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าหารือข้อราชการ ขณะเดียวกัน ได้เข้าร้องเรียนถึงผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งได้เตรียมซ่องสุมอาวุธหนักเตรียมที่จะลอบสังหารตนเอง ว่า ได้มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งมายังตนหลายฝ่ายและต่างสอดคล้องต้องกันเชื่อได้ว่าได้มีผู้มีอิทธิพล ในอำเภอปากพนัง ได้เตรียมที่จะฆ่าตนเอง เนื่องจากปัญหาที่สำคัญ คือ เข้าไปขัดขวางการขยายอิทธิพล ที่อำเภอปากพนัง ซึ่งผู้มีอิทธิพลรายนี้ชาวบ้านไม่ได้เกรงกลัวต่อไปแล้ว แล้วเขาอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เข้าไปดำเนินการ
“ในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้ทราบว่ามีการเตรียมการถึงขั้นจะใช้อาวุธหนักถล่ม แล้วจะดำเนินการให้เสร็จในเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ได้แจ้งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทราบเป็นเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ขณะนี้พฤติกรรมของมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะในอำเภอปากพนังนั้นไม่มีทางอื่นเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง และฝ่ายตำรวจต้องเข้าไปดูแล ข่าวนี้ไม่ใช่เข้าเฉพาะหูผมเท่านั้น เชื่อว่าทางฝ่ายบ้านเมืองโดยเฉพาะฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจต้องรู้เรื่องแล้ว ดังนั้น ควรมีมาตรการป้องกัน”
นายวิทยา กล่าวอีกว่า อิทธิพลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอิทธิพลในท้องถิ่นที่สร้างความรำคาญ มีทั้งปล้นฆ่า ข่มขู่ชาวบ้าน ในอดีตอาจได้รับความร่วมมือจากข้าราชการบางคนที่ไม่เอาไหน เมื่อบ้านเมืองดีขึ้นข้าราชการไม่เอาด้วย อิทธิพลคนคนนี้ลดลงหลายสิ่งที่ทำผิดกฎหมายมือกฎหมายเข้าไปจัดการ การจัดการนี้ต้องเข้าคุกเข้าตะรางกันทำให้เกิดการโกรธแค้น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ยืนยันได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่ความขัดแย้งเรื่องของผลประโยชน์ เป็นเรื่องภาระของผู้แทนที่ไปขัดขวางเขาในพื้นที่ และในรอบสัปดาห์นี้หากมีโอกาสจะเข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
