สนธิกำลังรวบผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลางหลายรายการ - ตร.เผยยาเสพติดเอี่ยวไฟใต้

นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในนราธิวาสสนธิกำลัง 3 ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บุกเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย รวบผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ยาเสพติด และผู้ต้องสงสัย พร้อมของกลางหลายรายการ ด้านรอง ผบก.นราธิวาสเผยสถานการณ์ความไม่สงบมียาเสพติดเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ได้ร่วมแถลงข่าวถึงการเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถรวบผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง และผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้จำนวน 10 ราย แยกเป็น

พื้นที่ สภ.เมืองนราธิวาสเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองจำนวน 100 นายเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 6 เป้าหมาย ซึ่งผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนได้ผู้ต้องหา 1 รายดังนี้

1.นายอายิ อูเซ็ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ตรอกอมร ต.บางนาค อ.เมือง จังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 31 หลอด น้ำหนักประมาณ 0.62 กรัม 2.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 6 เม็ด 3.ธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดต่างๆ ที่ได้จากการหน่ายยาเสพติด จำนวน 1,900 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ในพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ ม.6 ต.มะนังตายอ อ.เมือง จังหวัดนราธิวาส อีกด้วยเนื่องจากสืบทราบว่ามีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นนั้นเจ้าหน้าที่พบนายมามะซีพลี วามะ และนางซาเลซา โต๊ะมา แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน แต่ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ได้ทำการตรวจยึดเงินสดจำนวน 61,600 บาท โดยสงสัยว่าจะได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบหาแหล่งที่มาของเงินจำนวนดังกล่าวต่อไป


พื้นที่ สภ.ยี่งอ เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ตำบลลุโบะบือซา โดยเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 10/1 ม.3 ต.ลุโบะบือซา องยี่งอ จังหวัดนราธิวาส หลังจากการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ ทราบว่ากลุ่มก่อความไม่สงบหลหนีจากพื้นที่ อ.บาเจาะ มาอยู่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งผลจากการตรวจค้นได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 ราย คือ นายลุกมัน โตะแวบาโง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.1 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยมีหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 885/2550 ลงวันที่ 23 พ.ย.2550 ข้อหาร่วมกันก่อการร้าย, อั้งยี่, ซ่องโจร, ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

พื้นที่ สภ.บาเจาะ เจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น พบผู้ต้องสงสัยตามมาย พ.ร.ก.จำนวน 1 ราย ดังนี้ คือ นายมูฮัมหมัดซับรี กะดิง อยู่บ้านเลขที่ 278 ม.7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ ฉฉ.241/2551 ลงวันที่ 30 เม.ย.2551 ข้อหาต้องสงสัยก่อความไม่สงบฯ

พื้นที่ สภ.ศรีสาคร เจ้าหน้าที่เข้าในพื้นที่ บ้านไอกือเดร์ ม.4 ต.ศรีบรรพต จำนวน 6 เป้าหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 2 รายและผู้ต้องหา กระทำความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน 1 ราย คือนายรอยะ อูมูบิยา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/3 ม.3 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส โดยมีของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) จำนวน 113 ห่อเล็กน้ำหนักห่อละประมาณ 0.02 กรัม น้ำหนักรวม 2.26 กรัม ธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดต่างๆ ที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 8,000 บาท อาวุธปืนลูกซองสั้น แบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนปืนลูกซอง 6 นัด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษปะเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

และ นายอัสนัน ดือมาลี อายุ 28 ปี 121 ม.5 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลาง พืชกระท่อม จำนวน 34 ใบ จึงข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นบ้านของนายพีรอมือลี หะยีเจ๊ะนะ อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.1 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส แต่ไม่พบตัวเจ้าของบ้านแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง 1.อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 โคลท์ หมายเลขทะเบียน เลือนลาง จำนวน 1 กระบอก 2.กระสุนปืน .38 จำนวน 6 นัด เจ้าหน้าที่จึงยึดเพื่อทำการตรวจสอบ


พื้นที่ สภ.จะแนะ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พบผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 3 ราย คือ นายมะสาเหะ บาโด อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.3 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) น้ำหนักประมาณ 130 กรัม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นายอัลยัส เจ๊ะหะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 269 ม.1 ต.ดุซงญอ อ.จะนะ จ.นราธิวาส 3.นายมูฮัมหมัดบีดี แลซาแฮะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.5ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 510 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) น้ำหนักประมาณ 1.97 กรัม อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 7.65 มม. จำนวน 1 กระบอก ยาแก้ไอ 48 ขวด

พื้นที่ สภ.ตันหยง เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 4 เป้าหมาย เพื่อพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ สภ.ตันหยง ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 1 ราย นายเจะเปาซัน ยูโซะ อยู่บ้านเลขที่ 40/3 ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชาอัดแห้งชนิดแห้ง) น้ำหนัก 50 กรัม เจ้าหน้าที่จึงข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษปะเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

พื้นที่ สภ.ตากใบ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มบ้านเป้าหมาย เพื่อกดดันกลุ่มก่อความไม่สงบ และผู้ต้องหาตามหมาย พ.ร.ก.จำนวน 6 เป้าหมาย ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องสงสัยตามหมาย พ.ร.ก.1 ราย คือ นายอิสมาแอ เจ๊ะดือเระ บ้านเลขที่ 2 ม.1 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งผู้ต้องสงสัยตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ ฉฉ.417/2549 ลง 4 ส.ค.2549

ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบผู้ค้ายาเสพติดได้หลายราย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งหากยาเสพติดหมดไปก็เชื่อว่าปัญหาความไม่สงบจะจบลงไปด้วย

นอกจากนี้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียนในพื้นที่ด้วยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียนจำนวน 150 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 350 โดยหลังจากนี้เตรียมสำรวจว่าในพื้นที่ใดที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเพิ่มเติมอีก