สุราษฎร์ธานี- “นายก อบต.เกาะเต่า” สุราษฎร์ธานี กระทุ้งรัฐบาลขอท่าเทียบเรือรองรับนักท่องเที่ยว พ้อทำรายได้เข้าประเทศ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล
นายประยุทธ ทองนวล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัจจุบัน ต.เกาะเต่า ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามา ในแต่ละปีสามารถทำรายได้เข้าจังหวัด และประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท
ช่วงที่ผ่านมาขาดการพัฒนาอย่างจริงจัง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ ทำให้ อบต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถพัฒนาสาธารณูปโภค เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดโอกาสทางการท่องเที่ยวไปอย่างสิ้นเชิง
นายก อบต.เกาะเต่า กล่าวต่อไปว่า สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ และจำเป็นเร่งด่วนสำหรับพื้นที่ขณะนี้คือ ท่าเทียบเรือ เนื่องจากในแต่ละวันมีเรือนำเที่ยว เรือโดยสาร และเรือขนส่งสินค้าจำนวนมากจำเป็นต้องใช้ท่าเทียบเรือ แต่ทาง อบต.ไม่มีขีดความสามารถในการจัดสร้าง ปัจจุบันได้เช่าท่าเทียบเรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัด สามารถรองรับเรือได้เฉพาะเรือขนส่งสินค้า ขณะที่ท่าเทียบเรือ เพื่อการโดยสาร และการท่องเที่ยว ต้องปล่อยให้บริษัทเอกชนผู้ประกอบการ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งไม่มั่นคงแข็งแรง ที่สำคัญ อบต.ต้องขาดรายได้ส่วนนี้ไป
ทั้งนี้ อบต.เกาะพะงัน ได้เสนอแผนก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ความยาว 317 เมตร ต่อกรมการขนส่งทางน้ำ และพาณิชย์นาวี ในการเข้าดำเนินการก่อสร้าง คาดว่า จะใช้งบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบกลับมา
ขณะเดียวกัน อบต.ได้ยื่นขอเข้าบริหารท่าเทียบเรือของ อบจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้สามารถพัฒนา และปรับปรุงได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบเช่นกัน ตนในฐานะผู้นำท้องถิ่น จึงอยากวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาท่าเทียบเรือของเกาะเต่า เป็นการเร่งด่วนด้วย เพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต
นายประยุทธ ทองนวล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัจจุบัน ต.เกาะเต่า ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามา ในแต่ละปีสามารถทำรายได้เข้าจังหวัด และประเทศไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท
ช่วงที่ผ่านมาขาดการพัฒนาอย่างจริงจัง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ ทำให้ อบต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถพัฒนาสาธารณูปโภค เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดโอกาสทางการท่องเที่ยวไปอย่างสิ้นเชิง
นายก อบต.เกาะเต่า กล่าวต่อไปว่า สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ และจำเป็นเร่งด่วนสำหรับพื้นที่ขณะนี้คือ ท่าเทียบเรือ เนื่องจากในแต่ละวันมีเรือนำเที่ยว เรือโดยสาร และเรือขนส่งสินค้าจำนวนมากจำเป็นต้องใช้ท่าเทียบเรือ แต่ทาง อบต.ไม่มีขีดความสามารถในการจัดสร้าง ปัจจุบันได้เช่าท่าเทียบเรือขององค์การบริหารส่วนจังหวัด สามารถรองรับเรือได้เฉพาะเรือขนส่งสินค้า ขณะที่ท่าเทียบเรือ เพื่อการโดยสาร และการท่องเที่ยว ต้องปล่อยให้บริษัทเอกชนผู้ประกอบการ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งไม่มั่นคงแข็งแรง ที่สำคัญ อบต.ต้องขาดรายได้ส่วนนี้ไป
ทั้งนี้ อบต.เกาะพะงัน ได้เสนอแผนก่อสร้างท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ความยาว 317 เมตร ต่อกรมการขนส่งทางน้ำ และพาณิชย์นาวี ในการเข้าดำเนินการก่อสร้าง คาดว่า จะใช้งบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบกลับมา
ขณะเดียวกัน อบต.ได้ยื่นขอเข้าบริหารท่าเทียบเรือของ อบจ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้สามารถพัฒนา และปรับปรุงได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบเช่นกัน ตนในฐานะผู้นำท้องถิ่น จึงอยากวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาท่าเทียบเรือของเกาะเต่า เป็นการเร่งด่วนด้วย เพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต
