ตรัง – ชาวประมงอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง พบลูกปลาโลมา ตายเกยตื้นบริเวณชายหาดทรายทอง นักวิชาการประมงระบุ อาจจะหลงฝูงช่วงเกิดมรสุมในท้องทะเล
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจาก นายอนุวัฒน์ ช่วยช่วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน ว่า ก่อนหน้านั้น ได้มีชาวประมงพื้นบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านหาดทรายทอง พบซากโลมาตายเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาด จากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันลากซากโลมาตัวดังกล่าว มาไว้บริเวณโขดหินใกล้กับท่าเทียบเรือเกาะสุกร ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากป้อมตำรวจสายตรวจประจำตำบลเกาะสุกร ประมาณ 100 เมตร
จากการตรวจสอบซากโลมาในเบื้องต้น พบบาดแผลถลอกที่เกิดจากอวนลาก บริเวณปลายหาง มีความยาวประมาณ 2 นิ้ว แต่เมื่อชาวบ้านได้นำซากโลมาขึ้นมาไว้ริมฝั่งได้ไม่นาน ปรากฎว่า บริเวณท้องของโลมาตัวดังกล่าวก็แตก จนเป็นเหตุให้ไส้ทะลักออกมา ก่อนที่ทาง อบต.เกาะสุกร จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ให้เดินทางมานำซากโลมาตัวดังกล่าวไปตรวจสอบเพื่อสาเหตุการตายที่แท้จริง
ทั้งนี้ โลมาตัวดังกล่าวนั้น น่าจะเป็นโลมาชนิดหัวบาตร โดยปกติจะพบเห็นได้น้อยมาก และมาอาศัยอยู่ในบริเวณน่านน้ำของจังหวัดตรังน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะพบโลมาชนิดปากขวด อย่างไรก็ตาม ในช่วงลมมรสุมของทุกๆ ปี ก็มีการพบโลมาเข้ามาอาศัยอยู่ในน่านน้ำเกาะลิบง อำเภอกันตัง และเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน อยู่เป็นประจำ โดยซากโลมาที่พบตัวนี้ มีน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ยาวประมาณ 1.20 เมตร วัดรอบตัวได้ประมาณ 0.50 เมตร และมีอายุประมาณ 2-4 ปี
นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง 8 สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า โลมาตัวที่ตายล่าสุดนี้เป็นชนิดใด เนื่องจากปกติในพื้นที่จังหวัดตรัง จะพบโลมาหัวบาตรได้น้อยมาก โดยโลมาหัวบาตรนั้นมี 2 ชนิด คือ โลมาหัวบาตรธรรมดา และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ ซึ่งจากรายละเอียดที่ทราบเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นลูกโลมา ซึ่งหากไม่พบบาดแผลก็อาจจะตายจากความป่วยของมันเอง หรือไม่ก็อาจะหลงฝูงจนกระทั่งตายไปเองก็ได้
ทั้งนี้ โดยปกติโลมาจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ซึ่งมีตั้งแต่ 10 ตัว ไปจนถึง 100 ตัว และหากโลหาตัวใดหลงฝูง ก็จะมีการส่งเสียงร้องเรียกให้ฝูงกลับมารับ แต่เนื่องจากโลมาตัวดังกล่าวมีอายุน้อย ซึ่งอาจจะหลงฝูงในช่วงเกิดมรสุมในท้องทะเล แล้วพัดพาร่างเข้ามาในน่านน้ำฝั่งจังหวัดตรัง จึงอาจทำให้เกิดความอ่อนเพลีย และตายลงไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อไปทำการตรวจสอบซากโลมา และหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป