สุราษฎร์ธานี - กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในพื้นที่สุราษฎร์ธานีได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรมและเรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม ฉวยโอกาสปล่อยน้ำเสียงในช่วงฝนตกหนักทำให้ปลาในกระชังตายเป็นจำนวนมาก
นางเอมอร แซ่เตียว อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 136/7 ม.2 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในช่วงระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่สุราษฎร์ธานี ทำให้ผู้ประกอบการโรงงานได้ฉวยโอกาสปล่อยน้ำเสียลงในคลองท่าทอง และเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มฉวยโอกาสล้างถังบรรจุน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้ปลากะพงขาวของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ในกระชังกว่า 100 เจ้า กว่า 400-500 กระชัง ได้รับความเสียหาย เนื่องจากปลาขาดออกซิเจนทำให้เกิดปลาน็อกตายวันละไม่น้อยกว่า 30-40 ตัว หรือวันละ 50 กิโลกรัมๆ ส่งผลให้มีการทุนไปแล้วนับแสนบาท
โดยทางกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังเคยทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบแต่อย่างใด โรงงานอุตสาหกรรมยังคงฉวยโอกาสปล่อยน้ำเสียในระยะที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงงานเพาะถั่วงอก โรงงานปาล์มน้ำมันและโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา
นอกจากนี้ ยังมีห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง ยังคงแอบปล่อยน้ำเสียลงมาอีกด้วย ชาวบ้านที่ลงไปในคลองท่าทองเกิดอาการแพ้และอาคันตามผิวหนังจึงอยากให้หน่อยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการแก้ไขตรงนี้ไห้ด้วย
นอกจากนี้ ขณะนี้ชาวบ้านยังประสบปัญหาราคาอาหารปลา หรือเหยื่อปลาขยับตัวสูงขึ้นจากเดิมเคยซื้ออาหารปลากิโลกรัมละ 7-9 บาท ปัจจุบันราคาเหยื่อปลาขยับเป็น 12-13 บาท ทำให้ชาวบ้านเริ่มหยุดเลี้ยงบ้างแล้วกว่า 30% และเมื่อมาประสบกับปัญหาราโรงงานปล่อยน้ำเสียยิ่งส่งผลให้กระทบกับการเลี้ยงปลาในกระชังเพิ่มสูงขึ้นไปอีก