สุราษฎร์ธานี - จังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศให้อำเภอพนมพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 อำเภอ หลังน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม และอุทยานแห่งชาติเขาสกไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 70 เซนติเมตร เดือดร้อน 35 หลังคาเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 พ.ค.) ได้เกิดน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติคลองพนม และน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 6-8 ต.คลองสก และพื้นที่หมู่ 1-4 ต.พลูเถื่อน อ.พนม ระดับน้ำสูง 50-80 เซนติเมตร ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 35 ครัวเรือน จำนวน 150 คน
ทางเจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้สูงอายุ และเด็กไปอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศให้พื้นที่อำเภอพนม เป็นพื้นที่ประสพภัยพิบัติฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอีก 1 อำเภอ หลังจากเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ได้ประกาศไปแล้ว 2 อำเภอ
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ในพื้นที่อำเภอวิภาวดี และอำเภอคีรีรัฐนิคม วันนี้ (14 พ.ค.) ฝนได้ทิ้งช่วง แต่ท้องฟ้ายังคงมีเมฆปกคลุม ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย และระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่ เหลือเพียงบริเวณพื้นที่ลุ่มที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง โดยเบื้องต้นกิ่งอำเภอวิภาวดี สรุปความเสียหายเกิดขึ้นในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน ตำบลตะกุกใต้ จำนวน 160 ครัวเรือน 300 คน มีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 1,500 ไร่ ถนนเสียหาย 2 สาย
ส่วน อำเภอคีรีรัฐนิคม สรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นพื้นที่ 2 ตำบล มี ต.น้ำหัก และ ต.ย่านยาว รวม 16 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 250 ครัวเรือน 850 คน ถนนเสียหาย 3 สาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม จังหวัดสุราษฎร์ธานียังคงมีคำสั่งให้เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจเกิดดินโคลนถล่ม บริเวณหมู่ 7, 8 และ 13 บ้านคลองมุ๋ย ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่หากเกิดภาวะวิกฤตด้วย