ตรัง - ตำรวจทางหลวงตรังสกัดจับแก๊งค้ากัญชาขณะกำลังลำเลียงเตรียมส่งต่อไปยังพื้นที่จังหวัดสตูล รวบผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลาง 285 กิโลกรัม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (12 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดตรัง นำโดย พ.ต.ท.สุกาญจน์ นิลอ่อน สารวัตรตำรวจทางหลวงจังหวัดตรัง สั่งการให้ ด.ต.สมศักดิ์ อิ้วสู หัวหน้าป้อมตำรวจทางหลวง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นำกำลังชุดเฉพาะกิจออกตรวจสอบรถต้องสงสัย ที่เดินทางมาจากภาคอีสานเข้าในในพื้นที่จังหวัดตรัง หลังจากสืบทราบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดลักลอบขนกัญชาอัดแท่งไปยังจังหวัดสตูล โดยใช้เส้นทางจังหวัดตรังเป็นเส้นทางลำเลียงขนส่งยาเสพติด
จากนั้น เมื่อทำการตรวจสอบบนถนนทางหลวงหมายเลข 403 ช่วงระหว่างกิโลเมตรที่ 39-40 พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองช้างแล่น อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สแปสแค็ปส์ ชนิดตอนครึ่ง สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน น-4363 มุกดาหาร ที่มีการดัดแปลงท้ายรถเป็นรถบรรทุกผลไม้ แต่มีเพียงตะกร้าผลไม้ว่างเปล่า และสิ่งของอีกจำนวนหนึ่ง บรรทุกอยู่ที่บริเวณท้ายรถคันดังกล่าว จึงสกัดให้ทำการหยุดรถ และขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่
ทั้งนี้ ปรากฏว่า คนขับรถและบุคคลนั่งข้างมีท่าทีพิรุธ จึงขอตรวจค้นรถ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ประกอบด้วย นายภูวนัย บับพาน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่1/2 หมู่ที่ 8 ตำบลนาโสก อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นคนขับ และ นายประเสริฐ บับพาน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่เดียวกันกับ นายภูวนัย ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นญาติกัน ได้ฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีการจับกุม โดยวิ่งข้ามถนนไปหลบหนีเข้าไปภายในสวนยางพารา และกระโดนลงไปในคลองเพื่อหลบหนี
ดังนั้น ด.ต.สุวิทย์ มีสันเทียะ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง หนึ่งในชุดจับกุม จึงได้กระโดดลงไปในคลองเพื่อทำการจับกุม แต่ได้ถูก นายภูวนัย หนึ่งในคนร้าย กัดเข้าที่ใบหูด้านขวา จนได้รับบาดเจ็บ แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ และจากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบเอกสารการครอบครองรถซึ่งเป็นของ นายถัง เหงียนวัน ชาวเวียดนาม และมี นายภูวนัย ผู้ต้องหา เป็นผู้ใช้รถคันดังกล่าว ส่วนบริเวณท้ายรถกระบะพบการซุกซ่อนกัญชาอัดแท่งไว้ชั้นล่างสุด รวมจำนวน 285 แท่ง หรือ 285 กิโลกรัม แล้วนำตะกร้าผลไม้ว่างเปล่าที่บรรทุกมาด้วยปิดทับ เพื่ออำพรางและตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะถูกจับกุมในครั้งนี้
นายภูวนัย และนายประเสริฐ 2 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ได้รับจ้างขับรถเพื่อจะนำกัญชาอัดแท่งทั้งหมด ที่ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ไปส่งยังพื้นที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 100,000 บาท ซึ่งเพิ่งรับจ้างเป็นเที่ยวแรก โดยมีนายหน้าซึ่งเป็นคนรู้จักมาติดต่อ ส่วนเส้นทางการเดินรถมุ่งหน้าไปจังหวัดสตูลนั้น จะมีชาย 2 คน ขับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูมิชิ สตาด้าร์ ชนิดตอนครึ่ง สีบรอน์ด-เงิน หมายเลขทะเบียน บธ-7876 สกลนคร คอยนำทาง และเมื่อมาถึงอำเภอละงู จังหวัดสตูล ก็จะมีคนโทรศัพท์เข้ามือถือ เพื่อมารับของอีกทอดหนึ่ง โดยที่ไม่รู้จักทั้งผู้จ้างวานและผู้รับของแต่อย่างใด
ต่อมา พ.ต.อ.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้กำกับการ ฝ่ายปฏิบัติการ 9 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พ.ต.อ.วิสูตร นาคจู ผู้กำกับการ สภ.ห้วยอด และ พ.ต.ท.สุกาญจน์ นิลอ่อน สารวัตรตำรวจทางหลวงจังหวัดตรัง ได้นำตัวนายภูวนัย และนายประเสริฐ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง มูลค่า 7,695,000 บาท มาแถลงข่าว ก่อนนำตัวส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า เดิมทีเส้นทางจังหวัดตรังมีกระบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่สามารถติดตามสืบข่าวและจับกุมได้ในรายใหญ่ๆ จึงได้มีการประสานสั่งการให้ พ.ต.ท.สุกาญจน์ นิลอ่อน สารวัตรตำรวจทางหลวงจังหวัดตรัง จัดตั้งชุดเฉพาะกิจ 1 และ 2 เพื่อที่ออกตรวจลาดตระเวนเหตุต้องสงสัย ก่อนที่ยาเสพติดเหล่านี้จะส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และเปลี่ยนมูลค่าเงินเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัว
พ.ต.อ.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้กำกับการ ฝ่ายปฏิบัติการ 9 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายกัญชาอัดแท่งรายใหญ่ ที่เดินทางมาจากภาคอีสานนั้น ถือได้ว่ารายนี้เป็นรายที่ 2 โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจังหวัดพัทลุง ซึ่งนำโดย พ.ต.ท.สุกาญจน์ นิลอ่อน ก็สามารถจับกระบวนการค้ากัญชาอัดแท่งมาได้แล้ว 1 ราย จำนวน 298 กิโลกรัม ก่อนหน้านี้ เส้นทางลำเลียงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางใหม่ ก่อนส่งต่อข้ามแดน
อย่างไรก็ตาม หลังจากจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เพื่อติดตามจับกุมตัว นายถัง เหงียนวัน ชาวเวียดนาม ผู้ครอบครองรถกระบะที่ถูกจับกุม และอายัดทรัพย์สินเพื่อนำมาตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
