นราธิวาส - ตำรวจนราธิวาส เร่งสอนภาษามาลายูท้องถิ่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด หวังลดช่องว่างและเร่งแก้ปัญหาความไม่สงบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการพัฒนาการสื่อสารภาษามาลายูท้องถิ่น
โดยทาง พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ได้กำหนดให้มีการคัดเลือก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีละ 2 นาย รวม 40 นาย เข้าร่วมอบรมในโครงการ
ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้เสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการปฏิบัติงานตามขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่โดยการสื่อสารด้วยภาษามาลายูได้ และที่สำคัญเพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน สร้างความรักความเข้าใจต่อกัน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสถานการณ์ความไม่สงบให้ยุติเร็วขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในขณะนี้ในพ้นที่จังหวัดนราธิวาส มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาถิ่นอีกมาก ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสนั้นส่วนใหญ่ประชาชนจะใช้ภาษามาลายูเป็นหลักในการสนทนา ทางสำนักงานตำรวจจึงเล็งเห็นความสำคัญ จึงจำเป็นต้องพัฒนาการเรียนรู้ให้กับตำรวจ
โดยตำรวจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสนั้นมีทั้งหมด 3,239 นาย ไม่สามารถที่จะพูดและเข้าใจภาษามาลายูได้1,810 นาย แยกเป็นชั้นสัญญาบัตร 226 นาย และชั้นประทวน 1,584 นาย โดยส่วนใหญ่มาจากพื้นที่อื่น การได้เข้าโครงการครั้งนี้จะทำให้ทำงานในพื้นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา”
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ห้องประชุมปาหนัน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการพัฒนาการสื่อสารภาษามาลายูท้องถิ่น
โดยทาง พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ได้กำหนดให้มีการคัดเลือก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีละ 2 นาย รวม 40 นาย เข้าร่วมอบรมในโครงการ
ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดได้เสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการปฏิบัติงานตามขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่โดยการสื่อสารด้วยภาษามาลายูได้ และที่สำคัญเพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน สร้างความรักความเข้าใจต่อกัน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสถานการณ์ความไม่สงบให้ยุติเร็วขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในขณะนี้ในพ้นที่จังหวัดนราธิวาส มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาถิ่นอีกมาก ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสนั้นส่วนใหญ่ประชาชนจะใช้ภาษามาลายูเป็นหลักในการสนทนา ทางสำนักงานตำรวจจึงเล็งเห็นความสำคัญ จึงจำเป็นต้องพัฒนาการเรียนรู้ให้กับตำรวจ
โดยตำรวจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสนั้นมีทั้งหมด 3,239 นาย ไม่สามารถที่จะพูดและเข้าใจภาษามาลายูได้1,810 นาย แยกเป็นชั้นสัญญาบัตร 226 นาย และชั้นประทวน 1,584 นาย โดยส่วนใหญ่มาจากพื้นที่อื่น การได้เข้าโครงการครั้งนี้จะทำให้ทำงานในพื้นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา”