ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯภูเก็ต ขานรับแนวคิดการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจังหวัดภูเก็ตของนายกรัฐมนตรี แต่ยังเชื่อว่าการตัดสินใจอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ยังคงต้องเป็นการพิจารณาจากรัฐบาล
จากกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อวานนี้ ที่จะเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการ หรือบอร์ด มาบริหารจังหวัดภูเก็ต เพื่อมากำหนดทิศทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ดำเนินการได้คล่องตัวยิ่งขึ้นนั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ออกมาขานรับแนวคิดนี้ โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพื้นที่ได้มีคณะกรรมการจากหลายฝ่ายได้ร่วมกันกลั่นกรอง ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีความพร้อม และได้นำเสนอโครงการต่างๆไปยังรัฐบาลทั้งหมดหมดแล้วตั้งแต่เริ่มมีการจัดตั้งรัฐบาล
อาทิ การศึกษาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ โครงการสร้างเตาเผาขยะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีงบลงทุนนับพันล้านบาทขึ้นไป โดยคิดว่าทางนายกรัฐมนตรี จะได้มอบหมายให้รองนายก หรือผู้รับผิดชอบ นัดหมายเพื่อลงมรประชุมร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชื่อว่า การพิจารณาอนุมัติโครงการ หรือ มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต อาทิ อำนาจการแก้ไข พรบ.ร่วมทุน การกำหนดให้สภาพัฒน์ หรือหน่วยไหนเป็นหน่วยหลัก ในที่สุดคิดว่า คงจะต้องนำเข้า คณะรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจ และหากเป็นไปได้แนวคิดนี้อยากจะให้ทันกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะปัญหาของภูเก็ตหมักหมม มานานต้องรีบหาทางดำเนินการแก้ไข
ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช รองประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต เห็นด้วยกับแนวคิดนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการบริหารเมือง เพื่อมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาภูเก็ต ให้เป็นเขตปกครองพิเศษ เนื่องจากภูเก็ตมีความเหมาะสมในการศึกษาให้เป็นเขตปกครองพิเศษ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 9 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ถ้าหากจังหวัดภูเก็ต มีการพัฒนาพื้นที่โดยไม่ติดเงื่อนไขข้อจำกัดของภาครัฐ จะก่อให้เกิดโครงการสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ อาทิ การพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง การสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการลงทุนของภาครัฐจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เห็นว่า การเป็นเขตปกครองพิเศษ จะต้องไม่ขัดแย้งกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ควรเป็นการผสมผสาน ซึ่งเม็ดเงินที่จะลงมาพัฒนานั้น จะได้กระจายทั่วพื้นที่ และสร้างรายได้แก่ภูเก็ตมากขึ้น
จากกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อวานนี้ ที่จะเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการ หรือบอร์ด มาบริหารจังหวัดภูเก็ต เพื่อมากำหนดทิศทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ดำเนินการได้คล่องตัวยิ่งขึ้นนั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ออกมาขานรับแนวคิดนี้ โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพื้นที่ได้มีคณะกรรมการจากหลายฝ่ายได้ร่วมกันกลั่นกรอง ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีความพร้อม และได้นำเสนอโครงการต่างๆไปยังรัฐบาลทั้งหมดหมดแล้วตั้งแต่เริ่มมีการจัดตั้งรัฐบาล
อาทิ การศึกษาโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โครงการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ โครงการสร้างเตาเผาขยะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีงบลงทุนนับพันล้านบาทขึ้นไป โดยคิดว่าทางนายกรัฐมนตรี จะได้มอบหมายให้รองนายก หรือผู้รับผิดชอบ นัดหมายเพื่อลงมรประชุมร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชื่อว่า การพิจารณาอนุมัติโครงการ หรือ มอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต อาทิ อำนาจการแก้ไข พรบ.ร่วมทุน การกำหนดให้สภาพัฒน์ หรือหน่วยไหนเป็นหน่วยหลัก ในที่สุดคิดว่า คงจะต้องนำเข้า คณะรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจ และหากเป็นไปได้แนวคิดนี้อยากจะให้ทันกับรัฐบาลชุดนี้ เพราะปัญหาของภูเก็ตหมักหมม มานานต้องรีบหาทางดำเนินการแก้ไข
ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช รองประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต เห็นด้วยกับแนวคิดนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการบริหารเมือง เพื่อมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาภูเก็ต ให้เป็นเขตปกครองพิเศษ เนื่องจากภูเก็ตมีความเหมาะสมในการศึกษาให้เป็นเขตปกครองพิเศษ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 9 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ถ้าหากจังหวัดภูเก็ต มีการพัฒนาพื้นที่โดยไม่ติดเงื่อนไขข้อจำกัดของภาครัฐ จะก่อให้เกิดโครงการสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ อาทิ การพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง การสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการลงทุนของภาครัฐจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เห็นว่า การเป็นเขตปกครองพิเศษ จะต้องไม่ขัดแย้งกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ควรเป็นการผสมผสาน ซึ่งเม็ดเงินที่จะลงมาพัฒนานั้น จะได้กระจายทั่วพื้นที่ และสร้างรายได้แก่ภูเก็ตมากขึ้น