สลดงานศพเหยื่อโจรใต้เงียบไร้ญาติร่วมงาน

ยะลา - ครอบครัวสิงห์ทอง เหยื่อคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงคนงานก่อสร้าง 5 ศพ สลดบรรยากาศในงานศพเงียบเหงาไร้ญาติร่วมงาน

วันนี้ (25 เม.ย.) ที่ บริเวณศาลา 1 วัดยะลาธรรมมาราม อ.เมือง จ.ยะลา บรรยากาศงานศพของนายประจิน สิงห์ทอง อายุ 52 ปี และ นางฉลวย คำสุวรรณ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ถนนวิฑูรย์อุทิต เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นสามีภรรยา และ เป็นผู้เสียชีวิต 2 ใน 5 ศพ ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และ 11 มม. กราดยิงขณะ รถยนต์คนงานก่อสร้างจอดเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเปิดประตู เพื่อจะเข้าไปในโรงเรียนประสานวิทยา คนร้าย 4 คน ที่ซุ่มอยู่ ใช้อาวุธปืนถล่มยิงทันทีเสียงดังสนั่นทั่วโรงเรียนทำให้มีคนงานก่อสร้างบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 ราย ที่บริเวณหน้าโรงเรียนประสานวิทยา หมู่ที่ 5 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา และ เศร้าโศกเสียใจ มีเพียง ลูกของนายประจิน และนางฉลวย เพียง 3 คน และญาติพี่น้องอีก 5 คนเท่านั้น ที่มาร่วมในงานศพ

นางคาด เพชรคง อายุ 65 ปี อาของนายประจิน กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นกับครอบครัวของตน นายประจิน และ นางฉลวย เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร มีแต่จะทำงานเก็บเงินเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเพียงเท่านั้น ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครอีกเลย ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ อยู่กันฉันพี่น้อง ไม่มีปัญหาอะไร มีเพียงคนที่ไม่ดี เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สร้างปัญหาความเดือดร้อน อยากให้เหตุการณ์สงบลงโดยเร็ว

ที่สำคัญอีกอย่าง ที่เสียใจก็คือ ญาติพี่น้องของนายประจิน มีจำนวนมาก ที่จังหวัดสงขลา และพัทลุง แต่ไม่มีใครกล้าลงมาร่วมในงานศพของนายประจิน และ ภรรยา แม้แต่คนเดียวเพราะหวาดกลัว และไม่มั่นใจในความปลอดภัย มีแต่โทรหาเพื่อถามข่าวคราวว่าเป็นอย่างไรต้องการให้ช่วยยังไง งานศพก็เลยดูเงียบเหงา

นายฐากร สิงห์ทอง ลูกชายนายประจิน กล่าวว่า ตนอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแล ครอบครัวของตน เพราะตนขาดเสาหลักของครอบครัวไปทั้ง 2 คน มีความเดือดร้อนมาก และอยากให้ทางภาครัฐมีมาตรการดูแลการทำงานของผู้รับเหมา หรือคนงานก่อสร้างที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย อยากให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยขณะทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก

ส่วนอาการบาดเจ็บของ นายกิตติศักดิ์ ทิมโพธิ์กาล มีบาดแผลถูกยิงที่ลำตัวหลายนัด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ต้องเฝ้าดูอาการเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลศูนย์ยะลา