นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาสสนับสนุนเกษตรกรชาวนาปลูกข้าวในพื้นที่นาร้าง สำเร็จแล้วใน 5 อำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเผยเกษตรกรชาวนามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการดำเนินตามนโยบายของจังหวัดนราธิวาส ในการผลิตข้าวในพื้นที่นาร้าง เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาได้มีข้าวไว้บริโภคในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ในครัวเรือนว่าขณะนี้ทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการเพื่อให้การสนับสนุนประชาชนในทุกพื้นที่ตามนโยบายดังกล่าว โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถือว่าได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะการช่วยเหลือให้ชาวนามีข้าวไว้กินตลอดปีรวมถึงบางส่วนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้มาก อาทิเช่นในพื้นที่บ้านกูวา ม.5 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่นาร้างโดยรวมกว่า 1,200 ไร่
โดยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานกว่า 25 ปี และเมื่อทางจังหวัดเข้าไปสนับสนุนให้มีการทำนาในพื้นที่นาร้างจำนวนกว่า 180 ไร่ ทำให้เกษตรกรชาวนามีผลผลิตข้าวเฉลี่ย 600-700 กิโลกรัม ข้าวเปลือก 400 กิโลกรัม ข้าวสาร 120,000 กิโลกรัม หรือ 70 ตัน ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับใช้รับประทานในครัวเรือนโดยที่ไท้ต้องซื้อข้าว อีกทั้งยังสามารถนำไปจำหน่ายได้อีก
นอกจากทางจังหวัดจะให้การสนับสนุนเกษตรชาวนาในพื้นที่ อ.สไหงปาดีแล้ว ยังมีการสนับสนุนในพื้นที่ อำเภอตากใบ อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ และอำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งได้ให้การสนับสนุนในการปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างรวมทั้งหมดกว่า 900 ไร่นั้น ผลิตได้ 471 ตัน สามารถแปรรูปเป็นข้าวสารได้ 271 ตัน คิดเป็นจำนวนเงิน 7,577,159 บาท ซึ่งยอดจำนวนเงินดังกล่าวสามารถใช้เลี้ยงประชากรได้ถึง 2,056 คนทั้งใช้บริโภคในครัวเรือนและเหลือพอสำหรับจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้อีกด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในปี 2551 นี้ทางจังหวัดนราธิวาสยังคงมีนโยบายที่จะสนับสนุนการปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
โดยทางจังหวัดจะมีการเข้าไปสนับสนุนการทำนาในพื้นที่นาร้างในพื้นที่ อำเภอเมือง บ.กาแนะ ม.3 บ้านกามูแร ม.8 ต.กะลุวอเหนือ จำนวน 400 ไร่ อำเภอยี่งอ บ้านต้นตาล ม.2 ตำบลจอเบาะ เนื้อที่ 396 ไร่ อำเภอบาเจาะ บ้านบือเระ ม.2 ต.จอเบาะ เนื้อที่ 400 ไร่ อำเภอรือเสาะ บ้านสะแนะ ม.1 บ.สุแป๊ะ ม.2 ตำบลเรียง และอำเภอสุไหงโก-ลก บ.ลูโบ๊ะลือซง ม.2 ต.มูโน๊ะ เนื้อที่ 396 ไร่
คาดว่าหลังจากที่จังหวัดได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวแล้วจะทำให้ประชาชนในทุกพื้นที่รวมถึงเกษตรกรชาวนามีคุณภาพชีวิตที่ดีตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า "ถึงแม้เราจะยาก แต่เรามีข้าวกิน เราก็สามารถอยู่ได้”
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการดำเนินตามนโยบายของจังหวัดนราธิวาส ในการผลิตข้าวในพื้นที่นาร้าง เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาได้มีข้าวไว้บริโภคในครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ในครัวเรือนว่าขณะนี้ทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการเพื่อให้การสนับสนุนประชาชนในทุกพื้นที่ตามนโยบายดังกล่าว โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถือว่าได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะการช่วยเหลือให้ชาวนามีข้าวไว้กินตลอดปีรวมถึงบางส่วนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้มาก อาทิเช่นในพื้นที่บ้านกูวา ม.5 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่นาร้างโดยรวมกว่า 1,200 ไร่
โดยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานกว่า 25 ปี และเมื่อทางจังหวัดเข้าไปสนับสนุนให้มีการทำนาในพื้นที่นาร้างจำนวนกว่า 180 ไร่ ทำให้เกษตรกรชาวนามีผลผลิตข้าวเฉลี่ย 600-700 กิโลกรัม ข้าวเปลือก 400 กิโลกรัม ข้าวสาร 120,000 กิโลกรัม หรือ 70 ตัน ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับใช้รับประทานในครัวเรือนโดยที่ไท้ต้องซื้อข้าว อีกทั้งยังสามารถนำไปจำหน่ายได้อีก
นอกจากทางจังหวัดจะให้การสนับสนุนเกษตรชาวนาในพื้นที่ อ.สไหงปาดีแล้ว ยังมีการสนับสนุนในพื้นที่ อำเภอตากใบ อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ และอำเภอเจาะไอร้อง ซึ่งได้ให้การสนับสนุนในการปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างรวมทั้งหมดกว่า 900 ไร่นั้น ผลิตได้ 471 ตัน สามารถแปรรูปเป็นข้าวสารได้ 271 ตัน คิดเป็นจำนวนเงิน 7,577,159 บาท ซึ่งยอดจำนวนเงินดังกล่าวสามารถใช้เลี้ยงประชากรได้ถึง 2,056 คนทั้งใช้บริโภคในครัวเรือนและเหลือพอสำหรับจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้อีกด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในปี 2551 นี้ทางจังหวัดนราธิวาสยังคงมีนโยบายที่จะสนับสนุนการปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างให้ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
โดยทางจังหวัดจะมีการเข้าไปสนับสนุนการทำนาในพื้นที่นาร้างในพื้นที่ อำเภอเมือง บ.กาแนะ ม.3 บ้านกามูแร ม.8 ต.กะลุวอเหนือ จำนวน 400 ไร่ อำเภอยี่งอ บ้านต้นตาล ม.2 ตำบลจอเบาะ เนื้อที่ 396 ไร่ อำเภอบาเจาะ บ้านบือเระ ม.2 ต.จอเบาะ เนื้อที่ 400 ไร่ อำเภอรือเสาะ บ้านสะแนะ ม.1 บ.สุแป๊ะ ม.2 ตำบลเรียง และอำเภอสุไหงโก-ลก บ.ลูโบ๊ะลือซง ม.2 ต.มูโน๊ะ เนื้อที่ 396 ไร่
คาดว่าหลังจากที่จังหวัดได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวแล้วจะทำให้ประชาชนในทุกพื้นที่รวมถึงเกษตรกรชาวนามีคุณภาพชีวิตที่ดีตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า "ถึงแม้เราจะยาก แต่เรามีข้าวกิน เราก็สามารถอยู่ได้”