นครศรีธรรมราช – ศึกเลือกตั้ง อบจ.เมืองนครศรีฯ ยังไม่จบ “พิชัย” หอบหลักฐานร้องค้านผล “วิฑูรย์” กกต.อึ้งเจอหลักฐานเด็ดไม่กล้าฟันธงเตรียมส่ง กกต.กลางพิจารณา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (23 เม.ย.) ที่สำนักงาน กกต.นครศรีธรรมราช นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 1 ได้เข้าร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2551 โดยมีผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นายวิฑูรย์ เดชเดโช ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 2 ได้รับคะแนน 265,903 และ นายพิชัย บุณยเกียรติ หมายเลข 1 ได้คะแนน 251,111 คะแนน ซึ่งจากผลการเลือกตั้งดังกล่าวนั้นนายพิชัย ได้นำหลักฐานและพยานในการกระทำผิดเข้าร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาไต่สวน
นายพิชัย บุณยเกียรติ ได้นำหนังสือคัดค้านผลการเลือกตั้งระบุว่าเห็นว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายหรือฝ่าฝืน พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ตามความในมาตรา 57 จึงขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
โดยมีข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่นำมายื่นรวม 3 กรณี คือ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2551 ซึ่งเป็นการกระทำความผิดภายใน 60 วันก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้มีการจัดเลี้ยงกลุ่มสตรีหรือผู้นำชุมชนในเขต อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
โดยมีการแจกหนังสือการจัดฝึกอบรมผู้นำชุมชนที่ทำโดยงบประมาณของ อบจ.นครศรีธรรมราช ไปแจกจ่าย และมีการสัญญาว่า หลังจากเลือกตั้งเสร็จแล้วจะนำผู้เข้าร่วมประชุมไปเที่ยวในรูปแบบของการจัดการศึกษาดูงานแน่นอน ถ้าได้รับการเลือกตั้ง พฤติกรรมดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่านอกจากได้ใช้เงินส่วนตัวแล้วยังใช้งบประมาณของ อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดินมาใช้ในการหาเสียงด้วย และยังมีเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันอีกหลายกรณี
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ในกรณีต่อมาคือการจัดทำบัตรตัวอย่างการเลือกตั้ง โดย นายวิฑูรย์ เดชเดโช ให้กับตนเองและทีม เสมือนหลอกลวงผู้ลงคะแนนให้เข้าใจผิดว่าในช่องหมายเลข 1 ซึ่งเป็นช่องของผู้คัดค้านไม่สามารถลงคะแนนได้เนื่องจากมีลูกศรปิดทับอยู่ เพื่อชี้นำให้กาในช่องหมายเลข 2 ทั้งยังมีการจัดทำเอกสารดังกล่าวมีสีคล้ายกับบัตรเลือกตั้งจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงคะแนนเข้าใจผิดในวิธีการลงคะแนน
จากข้อเท็จจริงทั้ง 2 กรณีนั้น จึงขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งไว้พิจารณา เพื่อไต่สวนโดยเร่งด่วนและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือตามกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดตามาตรา 118 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และขอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจาก กกต.กลางเข้าทำการสอบสวนพยานบุคคลเนื่องจากพยานที่ให้ข้อมูลนั้นเกรงกลัวอิทธิพลในพื้นที่ โดยเฉพาะพยานที่เข้าไปบันทึกเหตุการณ์ที่เป็นกรณีร้องคัดค้าน และขอให้ปกปิดเป็นความลับอย่างเคร่งครัด นายพิชัย กล่าว
ภายหลังจากที่ นายธงชัย วรรณธนะพิศิษฐ์ ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช รับหนังสือและลงเลขรับเรียบร้อยแล้ว เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า กระบวนในการพิจารณาเรื่องนี้ต้องเร็วมีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งต้องดำเนินการภายใน 30 วัน ซึ่งเรื่องนี้ขั้นตอนแรกจะพิจารณาก่อน 3 วันเพื่อนำไปสู่การตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนและจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วันเพื่อสรุปความเห็นนำส่งต่อ กกต.กลาง พิจารณาหากเกิน 20 วันจะขอขยายเวลาได้ไม่เกิน 20 วัน
“กระบวนการพิจารณานั้นสามารถชี้ได้เลยหากมีมูลพยานหลักฐานครบถ้วนส่งต่อไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณา ส่วนประเด็นในการทำบัตรตัวอย่างนั้นโดยข้อเท็จจริงสามารถทำได้ แต่ถ้าเหมือนหรือคล้ายกันนั้นต้องมีการวิเคราะห์ และมาพิจารณาถึงรายละเอียดปลีกย่อยตรงนี้เป็นอำนาจของ กกต.ที่จะต้องวินิจฉัยว่าการทำบัตรตัวอย่างนั้นผิดหรือไม่อย่างไร” นายธงชัย กล่าวในที่สุด
