ชาวนาเมืองลุงหันมาซ้อมข้าวด้วยมือหลังโรงสีปรับขึ้นราคา

พัทลุง – ชาวพัทลุงเปลี่ยนวิถีประหยัดในครัวเรือนหันมาซ้อมข้าวด้วยมือ หลังโรงสีเก็บค่าจ้างกระสอบละ 20 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงและราคาข้าวสารมีราคาแพง จนทำให้โรงสีข้าวสารขนาดเล็กตามหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดพัทลุงที่รับจ้างสีข้าวให้กับชาวบ้านได้ปรับราคาขึ้น จากเดิมที่มีการสีกระสอบ 50 กก.ในราคา 8-10 บาท ขณะนี้ได้ปรับเป็น 20 บาท

โดยเจ้าของโรงสีอ้าง ว่าราคาน้ำมัน และค่าไฟฟ้ามีราคาสูง จึงต้องปรับราคาขึ้น จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ท่าแค อ.เมือพัทลุง ได้นำเครื่องสีข้าวที่เป็นภูมิปัญญามาแต่โบราณ และใช้แรงงานคนเป็นหลักมาปัดฝุ่น รวมตัวทำข้าวซ้อมมือไว้รับประทานเอง ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่าย และได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน โดยส่วนของปลายข้าว รำ แกลบ สามารถนำไปขายอีกต่างหาก

โดยยายเจิม ณ พัทลุง อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.1 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ ได้หยุดผลิตข้าวซ้อม และหันมานำข้าวเปลือกไปสีตามโรงสีต่างในหมู่บ้าน แต่มาช่วง 2-3 เดือนที่ผ่าน ราคาน้ำมัน และไฟฟ้า ได้ปรับตัว สูงขึ้น

จนทำให้โรงสีขนาดเล็กที่รับจ้างสีข้าวให้กับชาวบ้าน ได้ปรับราคาค่าสีข้าวสารสูงขึ้น และข้าวสารที่นำไปสียังขาดน้ำหนัก และได้กลับมาน้อยจึงได้รวมกับเพื่อนบ้านว่า แต่ละครอบครัวใครที่มีเครื่องสีข้าว และครกกระเดื่อง พร้อมอุปกรณ์ อย่างกระด้ง กระเชอ นำมารวมกันที่ ศาลาหมู่บ้าน เพื่อหวนกลับมาทำข้าวซ้อมมือไว้รับประทานกันเอง ซึ่งสามารถรวมสมาชิกได้ 8-10 คน แล้วร่วมกันทำข้าวซ้อมมือดังกล่าว

ยายเจิม ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่รวมตัวกันทำข้าวซ้อมมือไว้กินเองแล้วยังผลิตข้าวซ้อมมือขายด้วยแต่จำนวนไม่มาก เนื่องจำกัดในเรื่องแรงงาน เพระสมาชิกแต่ละคนนั้น อายุเลย 70 ปีกันหมดแล้ว โดยข้าวซ้อมมือที่นั้น ข้าวสังข์หยด จะขาย กก.ละ 35 บาท ข้าวเล็บนก 30 บาท แต่ละวัน รวมกันทำแล้ว ได้ข้าวสารประมาณ 20-30 กก ส่วนปลายข้าว รำ ยังสามารถขายเป็นรายได้เสริมอีกทาง