ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล” เดินทางถึงภูเก็ต 20 เม.ย.นี้ เชื่อเพิ่มจุดสนใจให้นักดำน้ำจากตัวโลกเหตุเครื่องบินมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รวมทั้งการสร้างฝูงบินปะการังช่วยลดความแออัดของแหล่งดำน้ำธรรมชาติ
นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เขต 4 กล่าวถึงการเดินทางของฝูงบินปะการังมายังจังหวัดภูเก็ตว่า ตามที่ทางจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดภูเก็ต) ททท. และสมาคมดำน้ำ ทีดีเอ (ประเทศไทย) ประสานงานกับมูลนิธิเพื่ออทะเล ขอรับบริจาคเครื่องบินจากกองทัพอากาศ 10 ลำ เพื่อจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้นอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นการสร้างแหลงดำน้ำใหม่และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก รวมทั้งเพื่อลดความเสียหายของปะการังธรรมชาตินั้นและลดความแออัดของนักดำน้ำในแหล่งดำน้ำธรรมชาติ
ขณะนี้ขบวนเคลื่อนฝูงเครื่องบินปะการังเพื่อทะเลทั้ง 10 ลำ กำลังเดินทางมายัง จ.ภูเก็ต โดยจะถึงภูเก็ตในวันที่ 20 เม.ย.51 ซึ่งผู้จัดงานได้จัดให้มีพิธีต้อนรับขึ้นที่บริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ในเวลา 14.00 น.ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังท่าเทียบเรือน้ำลึก อ.เมือง เพื่อประกอบตัวเครื่อง ก่อนที่จะนำเครื่องบินไปจมในวันที่ 5 พ.ค.51 ที่บริเวณชายฝั่งอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง
โดยลักษณะของพื้นที่ที่จะนำเครื่องบินไปจมเป็นพื้นทราย ที่อยู่ห่างจากแนวปะการังธรรมชาติ และห่างจากฝั่งหาดบางเทา ประมาณ 1 กิโลเมตร ความลึกอยู่ที่ 16-18 เมตร ความขุ่นใสของน้ำ 8-10 เมตร
สำหรับเครื่องบินทั้ง 10 ลำที่นำมาทำฝูงบินปะการังเพื่อทะเล ประกอบด้วย เครื่องบิน Dakota จำนวน 4 ลำ และเครื่อง Sikorsky จำนวน 6 ลำ ได้ทำความสะอาด โดยเครื่องบินทั้งหมดเป็นเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการในสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนามมาแล้ว มีประวัติเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ
เชื่อว่าจะทำให้เกิดแรงจูงใจดึงดูดนักดำน้ำได้ดีและทำให้สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำ (Niche Market) ได้มากขึ้น และทำให้สามารถเพิ่มเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งดำน้ำ กับจุดดำน้ำอื่นๆ ได้ เส้นทางดำน้ำ เช่น ภูเก็ต-เครื่องบินจม บริเวณอ่าวบางเทา-จุดเรือจม บริเวณหน้าเขาหลัก-หมู่เกาะสิมิลัน หรือเส้นทางดำน้ำ เรือจม บริเวณหินมูสัง เกาะพีพี-เครื่องบินจมบริเวณอ่าวบางเทา-เรือจม บริเวณหน้าเขาหลัก-หมู่เกาะสิมิลัน เป็นต้น
นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เขต 4 กล่าวถึงการเดินทางของฝูงบินปะการังมายังจังหวัดภูเก็ตว่า ตามที่ทางจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (จังหวัดภูเก็ต) ททท. และสมาคมดำน้ำ ทีดีเอ (ประเทศไทย) ประสานงานกับมูลนิธิเพื่ออทะเล ขอรับบริจาคเครื่องบินจากกองทัพอากาศ 10 ลำ เพื่อจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้นอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นการสร้างแหลงดำน้ำใหม่และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก รวมทั้งเพื่อลดความเสียหายของปะการังธรรมชาตินั้นและลดความแออัดของนักดำน้ำในแหล่งดำน้ำธรรมชาติ
ขณะนี้ขบวนเคลื่อนฝูงเครื่องบินปะการังเพื่อทะเลทั้ง 10 ลำ กำลังเดินทางมายัง จ.ภูเก็ต โดยจะถึงภูเก็ตในวันที่ 20 เม.ย.51 ซึ่งผู้จัดงานได้จัดให้มีพิธีต้อนรับขึ้นที่บริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง ในเวลา 14.00 น.ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังท่าเทียบเรือน้ำลึก อ.เมือง เพื่อประกอบตัวเครื่อง ก่อนที่จะนำเครื่องบินไปจมในวันที่ 5 พ.ค.51 ที่บริเวณชายฝั่งอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง
โดยลักษณะของพื้นที่ที่จะนำเครื่องบินไปจมเป็นพื้นทราย ที่อยู่ห่างจากแนวปะการังธรรมชาติ และห่างจากฝั่งหาดบางเทา ประมาณ 1 กิโลเมตร ความลึกอยู่ที่ 16-18 เมตร ความขุ่นใสของน้ำ 8-10 เมตร
สำหรับเครื่องบินทั้ง 10 ลำที่นำมาทำฝูงบินปะการังเพื่อทะเล ประกอบด้วย เครื่องบิน Dakota จำนวน 4 ลำ และเครื่อง Sikorsky จำนวน 6 ลำ ได้ทำความสะอาด โดยเครื่องบินทั้งหมดเป็นเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการในสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนามมาแล้ว มีประวัติเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ
เชื่อว่าจะทำให้เกิดแรงจูงใจดึงดูดนักดำน้ำได้ดีและทำให้สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำ (Niche Market) ได้มากขึ้น และทำให้สามารถเพิ่มเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งดำน้ำ กับจุดดำน้ำอื่นๆ ได้ เส้นทางดำน้ำ เช่น ภูเก็ต-เครื่องบินจม บริเวณอ่าวบางเทา-จุดเรือจม บริเวณหน้าเขาหลัก-หมู่เกาะสิมิลัน หรือเส้นทางดำน้ำ เรือจม บริเวณหินมูสัง เกาะพีพี-เครื่องบินจมบริเวณอ่าวบางเทา-เรือจม บริเวณหน้าเขาหลัก-หมู่เกาะสิมิลัน เป็นต้น