กระบี่ -อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีขูดเลือดนักท่องเที่ยวและชาวกระบี่ เก็บค่าเข้าอุทยานฯสูงถึง 400 บาท แถมเพิ่มจุดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน อีก 2 จุด ผู้ประกอบการย่านอ่าวนาง-หาดนพรัตน์ธารา สับเละอุทยานเพิ่มจุดเก็บเงินบนท้องถนน ทำเสียบรรยากาศการท่องเที่ยว เผยเก็บ 400 แพงเกินไป และไม่แน่ใจว่าส่งเข้าหลวงหมดจริง
นายเชษฐ พวงจิตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีประกาศลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 กำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่จะเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 มีอัตรา คือ บริเวณเกาะทุกเกาะ อัตราค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ส่วนบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่พื้นที่เป็นเกาะ เก็บอัตรา ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท และผู้ที่จะได้รับการยกเว้นค่าบริการ คือ บุคคลที่มีอายุ ต่ำกว่า 3 ขวบ พระภิกษุ สามเณร และผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2251 และสถานที่ที่จะเพิ่มจุดจัดเก็บอีก จำนวน 2 จุด คือบริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง
สำหรับจุดเก็บค่าเข้าอุทยานฯทั้ง 2 จุด เป็นเส้นทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางไปท่าเรือ และถนนดังกล่าวมีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน ซึ่งการที่อุทยานฯเรียกเก็บค่าบริการเหมือนกับว่าเป็นการห้ามประชาชนเข้าเขตอุทยานฯทั้งที่ถนนเส้นดังกล่าวเกิดก่อนที่อุทยานฯจะเกิดขึ้น ซึ่งมีผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งจะต้องเดินทางเข้าเขตอุทยานฯทุกวันเพื่อประกอบอาชีพประมง และอื่นๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ผู้ประกอบการโรงแรมย่านอ่าวนาง และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่อุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้กำหนดเก็บอัตราค่าบริการเข้าพื้นที่อุทยานฯ โดยเก็บในอัตราชาวไทย เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท ว่าการเรียกเก็บอัตราค่าบริการดังกล่าวแพงมาก เมื่อมองถึงศักยภาพการให้บริการของอุทยานฯแถบจะไม่มีอะไรเลย และมิหนำซ้ำ ได้เพิ่มจุดเก็บค่าบริการอีก 2 จุด คือบริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง
ผู้ประกอบการโรงแรมย่านอ่าวนาง และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการเรียกเก็บค่าบริการเข้าชมอุทยานฯต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีการต่อต้าน ทั้งจากสมาคมท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ได้เรียกร้องมาตลอดว่าให้มีการลดหย่อน ไม่ควรจะเก็บในอัตราดังกล่าว และมีการต่อสู้กันเรื่อยมาจนกระทั่งอธิบดีกรมอุทยานฯมีคำสั่งชะลอ จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ก็ได้มีการประกาศปรับเปลี่ยนค่าเข้าอุทยานฯ ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าทำไม ก็มีประกาศจากอุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ว่าให้เก็บในอัตราชาวไทย เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมอีก
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่สำคัญการเพิ่มจุดเก็บค่าเข้าชมอุทยานฯ บริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถนนสายดังกล่าวถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตอุทยานฯก็จริง แต่เป็นเส้นทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางเดินทางไปมา ระหว่างหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง ซึ่งจะทำให้เสียบรรยากาศท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และคงจะเกิดความขัดแย้งกับประชาชนอย่างแน่นอนหากว่าอุทยานฯไม่เร่งชี้แจงกับชาวบ้าน ในส่วนของผู้ประกอบการเองก็คงจะมีการพูดคุยกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว
“ผมไม่เชื่อว่าเงินที่อุทยานฯเก็บจากผู้ที่เดินทางเข้าอุทยานฯทุกบาททุกสตางค์ จะเข้าหลวงทั้งหมด และอาจจะมีนอกมีในกัน แต่ก็คงจะไม่สามารถตรวจสอบได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบด้วย และว่าด้วยพื้นที่อุทยานฯของกระบี่ ยังพัฒนาไม่ถึงขั้นที่จะเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวแพงถึงขนาดนั้น ควรจะทบทวนคำสั่งใหม่ และการที่มีการเผาป้อมเก็บเงินของอุทยานฯที่เพิ่งสร้างใหม่ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยทำเรื่องให้กระจ่างด้วย เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีการขัดผลประโยชน์กันเอง หรืออย่างไร”
นายเชษฐ พวงจิตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีประกาศลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 กำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่จะเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 มีอัตรา คือ บริเวณเกาะทุกเกาะ อัตราค่าบริการ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ส่วนบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่พื้นที่เป็นเกาะ เก็บอัตรา ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท และผู้ที่จะได้รับการยกเว้นค่าบริการ คือ บุคคลที่มีอายุ ต่ำกว่า 3 ขวบ พระภิกษุ สามเณร และผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2251 และสถานที่ที่จะเพิ่มจุดจัดเก็บอีก จำนวน 2 จุด คือบริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง
สำหรับจุดเก็บค่าเข้าอุทยานฯทั้ง 2 จุด เป็นเส้นทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางไปท่าเรือ และถนนดังกล่าวมีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน ซึ่งการที่อุทยานฯเรียกเก็บค่าบริการเหมือนกับว่าเป็นการห้ามประชาชนเข้าเขตอุทยานฯทั้งที่ถนนเส้นดังกล่าวเกิดก่อนที่อุทยานฯจะเกิดขึ้น ซึ่งมีผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งจะต้องเดินทางเข้าเขตอุทยานฯทุกวันเพื่อประกอบอาชีพประมง และอื่นๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ผู้ประกอบการโรงแรมย่านอ่าวนาง และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่อุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้กำหนดเก็บอัตราค่าบริการเข้าพื้นที่อุทยานฯ โดยเก็บในอัตราชาวไทย เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท ว่าการเรียกเก็บอัตราค่าบริการดังกล่าวแพงมาก เมื่อมองถึงศักยภาพการให้บริการของอุทยานฯแถบจะไม่มีอะไรเลย และมิหนำซ้ำ ได้เพิ่มจุดเก็บค่าบริการอีก 2 จุด คือบริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง
ผู้ประกอบการโรงแรมย่านอ่าวนาง และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการเรียกเก็บค่าบริการเข้าชมอุทยานฯต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีการต่อต้าน ทั้งจากสมาคมท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ได้เรียกร้องมาตลอดว่าให้มีการลดหย่อน ไม่ควรจะเก็บในอัตราดังกล่าว และมีการต่อสู้กันเรื่อยมาจนกระทั่งอธิบดีกรมอุทยานฯมีคำสั่งชะลอ จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ก็ได้มีการประกาศปรับเปลี่ยนค่าเข้าอุทยานฯ ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าทำไม ก็มีประกาศจากอุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ว่าให้เก็บในอัตราชาวไทย เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท ซึ่งเป็นราคาเดิมอีก
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่สำคัญการเพิ่มจุดเก็บค่าเข้าชมอุทยานฯ บริเวณถนนสาย 4202 ระหว่างบ้านคลองแห้ง-หาดนพรัตน์ธารา และบริเวณถนนสาย 4203 ระหว่างหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถนนสายดังกล่าวถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตอุทยานฯก็จริง แต่เป็นเส้นทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางเดินทางไปมา ระหว่างหาดนพรัตน์ธาราและอ่าวนาง ซึ่งจะทำให้เสียบรรยากาศท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และคงจะเกิดความขัดแย้งกับประชาชนอย่างแน่นอนหากว่าอุทยานฯไม่เร่งชี้แจงกับชาวบ้าน ในส่วนของผู้ประกอบการเองก็คงจะมีการพูดคุยกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว
“ผมไม่เชื่อว่าเงินที่อุทยานฯเก็บจากผู้ที่เดินทางเข้าอุทยานฯทุกบาททุกสตางค์ จะเข้าหลวงทั้งหมด และอาจจะมีนอกมีในกัน แต่ก็คงจะไม่สามารถตรวจสอบได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบด้วย และว่าด้วยพื้นที่อุทยานฯของกระบี่ ยังพัฒนาไม่ถึงขั้นที่จะเรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวแพงถึงขนาดนั้น ควรจะทบทวนคำสั่งใหม่ และการที่มีการเผาป้อมเก็บเงินของอุทยานฯที่เพิ่งสร้างใหม่ เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยทำเรื่องให้กระจ่างด้วย เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีการขัดผลประโยชน์กันเอง หรืออย่างไร”
