เลขาธิการ ปชป.ชี้มติยุบพรรคชาติไทย-มัชฌิมาฯ ยังไม่จบ ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ยันพรรคไม่ฉวยโอกาสเอาดีในขณะคนอื่นกำลังมีปัญหา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีความรอบคอบ แนะตั้ง กมธ.ศึกษาก่อน
วันนี้(12เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังการเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กับนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เขต อ.ถลาง ที่บริเวณสหกรณ์สงเคราะห์การยาง จ.ภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสนอให้ยุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตยว่า เรื่องดังกล่าวถือว่ายังไม่เป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้ง แต่หากมีมติที่ชัดเจนแล้ว ในส่วนของสมาชิกพรรคที่ถูกยุบนั้นก็คงจะต้องมีการหาพรรคใหม่สังกัด หรืออาจจะต้องมีการตั้งพรรคใหม่ขึ้นมารองรับ ส่วนผู้ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก็คงจะหมดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี นอกจากนี้หากมีการยุบพรรคจริงในส่วนของ ส.ส.แบบสัดส่วนคงไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับ ส.ส.เขตก็คงต้องมีการเลือกตั้งกันใหม่ในหลายจังหวัด
ส่วนกรณีที่ กกต.มีมติให้ยุบพรรคการเมือง 2 ทั้ง 2 พรรคจะมีผลต่อพรรค ปชป.หรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรายังไม่ได้คิดอะไรไกลไปขนาดนั้น และเราคงไม่ฉวยโอกาสเอาดีจากการที่คนอื่นประสบกับปัญหา ประกอบกับยังไม่สามารถที่จะทำนายได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างไร จึงไม่มีอะไรตื่นเต้น ก็ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร
นายสุเทพ ยังได้กล่าวต่อไปถึงความพยามของรัฐบาลที่จะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า จะแก้ไขทั้งฉบับก็ไม่มีปัญหา แต่จะต้องพิจารณาโดยรอบคอบ ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยควรมีการตั้งคณะกรรมาธิการมาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน และให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม เพราะในการนำรัฐธรรมฉบับปี 2550 มาใช้นั้นก็มีการใช้วิธีลงประชามติ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลให้ความสนใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาบุกรุกที่ดินค่อนข้างมากในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งอันดามัน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร พร้อมที่จะจัดการในพื้นที่ที่เป็นฐานคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว แม้ปัญหาดังกล่าวจะเป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไข แต่ขณะนี้จะเห็นได้ว่ามีปัญหาสำคัญและเร่งด่วนที่รัฐบาลน่าจะให้ความสนใจมากกว่า เช่น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาข้าวยากหมากแพง เป็นต้น
ส่วนกรณีของบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากขณะนี้ตนได้มีการฟ้องทั้งทางเพ่งและทางอาญากับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว