ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – มหาวิทยาลัยทักษิณ จัดค่ายแกนนำอาสาสมัครยุติธรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 อดีต ส.ส.ร.ภาคใต้ยันค้านเต็มตัวแก้ไขรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่ห้องประชุมม่านทะเล สวนสัตว์สงขลา ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา ผศ.ดร.จุฑารัตน์ สถิรปัญญา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประกันคุณภาพและประเมินผล มหาวิทยาลัยทักษิณ เป็นประธานเปิดค่ายแกนนำอาสาสมัครยุติธรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จัดขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนทางการเมือง การปกครอง ส่งผลให้มีการประกาศรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ขึ้น ซึ่งมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งสิทธิในชีวิต ร่างกาย สิทธิที่ได้รับการคุ้มครองในการจับ สิทธิที่ได้รับการคุ้มครองในการค้น สิทธิที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐในฐานะพยานในคดีอาญา สิทธิได้รับค่าทดแทนความเสียหายจากรัฐในฐานะผู้เสียหายหรือจำเลยในคดีอาญา
เพื่อสร้างแกนนำในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 แก่ประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งใกล้ชิดกับเหตุการณ์ความไม่สงบ นำมาซึ่งปัญหาการละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน คือ จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส การเข้าค่ายแกนนำอาสาสมัครยุติธรรม มีอาจารย์ บุคลากร นิสิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ จำนวน 80 คน เข้าร่วมโครงการ ที่สำคัญ แกนนำที่เข้าค่ายอาสาสมัครยุติธรรมในครั้งนี้จะได้นำความรู้ที่ได้รับไปสร้างเครือข่ายอาสาสมัครยุติธรรมทักษิณในพื้นที่ตามชุมชนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยทักษิณ ได้เชิญ นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาเป็นวิทยากรบรรยายสิทธิ เสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และชี้แจงทำความเข้าใจกับอาจารย์และนิสิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ถึงการไม่เห็นด้วยในการที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลาและอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยในการที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ ถึงแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นกฎหมายที่แก้ไขได้ตามกฎหมายตามที่บัญญัติไว้ แต่ในการแก้เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด เพื่อให้การเข้ามาสู่วงการเมืองของนักการเมืองที่ไม่สุจริต
“ผมไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะมาตรา 238 ที่เขียนว่าผู้ใดทำผิดแล้วจะต้องรับผิดในฐานะกรรมการบริหารพรรค ในฐานะหัวหน้าพรรค ตรงนี้ถือว่าเราพยายามยกระดับความรับผิดชอบของคนที่เป็นหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคให้มากกว่าคนอื่น ถ้าทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยการทุจริตก็ควรจะยุบพรรค และหยุดเล่นการเมือง 5 ปี ถ้าเราไม่เขียนไว้อย่างนี้เราจะไม่สามารถปฏิรูปการเมืองไทยได้เลย เพราะฉะนั้นจึงยังไม่เห็นด้วยที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แค่พรรคและเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อประชาชน ถ้าเพื่อประชาชนต้องกำจัดคนโกงออกไปให้สิ้นทั้งแผ่นดิน”