xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯ"ก.ท่องเที่ยวฯ" ระบุทุกภาคส่วนในภูเก็ตต้องผนึกเตรียมรับการขยายตัวท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ต ต้องเตรียมพร้อมที่จะรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคต รวมทั้งสถาบันการศึกษา ต้องจัดการศึกษาให้เหมาะสมทั้งโดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ดร.ปรีดี โชติช่วง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นอันดับ 6 ของโลก ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว

ในการมอบนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายเป็นพิเศษสำหรับพื้นที่ภูเก็ต คือ ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณ

ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จะต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและในทะเล กระตุ้นและส่งเสริมให้ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมดูแลเพิ่มมากขึ้น เพราะถือว่า เป็นมรดกที่สำคัญด้านการท่องเที่ยว

นอกจากนี้สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีเป็นทุนอยู่แล้ว สิ่งที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จะต้องคำนึงถึง Thainess หรือความเป็นไทย ที่ครอบคลุมเรื่องความมีน้ำใจ อัธยาศัยใจคอที่ดี ดูแลเอาใจใส่ประชาชนชาวเมือง และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ มาเยือนด้วยเพราะจุดนี้ถือว่าเป็นจุดขายที่สำคัญ

หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ต่อไปว่า นอกจากจะต้องร่วมกันดูแลในเรื่องของทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและความเป็นไทยแล้ว ในเรื่องของสถาบันการศึกษาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะต้องหันมามองได้แล้วว่าในฐานะที่เกาะภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในระดับโลก ต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวนานาชาติ เช่น ชาวเกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย และจีน จะต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความรู้ความสามารถ ในการสื่อภาษากับกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งแนวโน้มตลาดรัสเซียจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างบุคลากรทางด้านภาษารัสเซียขึ้นมารองรับเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นภาษาเกาหลีเหมือนในปัจจุบัน

“นอกจากนั้นการผลิตบุคคลากร ยังจะต้องเน้นการพัฒนาบุคคลากรในระดับบนด้วย เพราะการศึกษาต่างๆในประเทศไทย ปัจจุบันมุ่งเน้นแต่การผลิตบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในระดับผู้ปฏิบัติเท่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการเรียนการสอนเพิ่ม เช่น การจัดการธุรกิจเรียลเอสเตทเพื่อการท่องเที่ยว นิเทศศาสตร์เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ในเรื่องนี้เห็นว่ามีความจำเป็นในการสร้างองค์ความรู้ให้สามารถเชื่อมโยงติดต่อสื่อสารไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายปรีดี กล่าวและว่า

พร้อมกันนี้หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน จะต้องไม่มองข้ามปัญหาสวัสดิภาพความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมไปถึง ปัญหาการกำจัดขยะมูลฝอย ที่จำเป็นจะต้องจัดการตั้งแต่ต้นทางในระดับครอบครัวหรือสถานประกอบการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต ที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อสภาวะแวดล้อมโดยส่วนรวมของจังหวัดภูเก็ต

ในเรื่องนี้ ทุกฝ่ายจะต้องผนึกกำลังกันแก้ไขปัญหานี้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อคงสภาพเกาะภูเก็ต ให้เป็น “เพชรของอันดามัน”อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่พยายามทำอย่างไรให้การท่องเที่ยว มีความยั่งยืนและทุกภาคส่วนร่วมมือดำเนินการ

นายปรีดี กล่าวต่อไปว่า ทุกฝ่ายมุ่งหวังว่าต้องการจะได้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีกำลังซื้อสูงหรือ High End แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการป้องกันการทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องมีการฟื้นฟูด้วย ตลอดจนจัดกิจกรรม แผนงานโครงการให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนนานวันขึ้น เช่นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ สนับสนุนให้นักศึกษาจากต่างประเทศไปศึกษาต่อ โดยมีการจูงใจคือลดอัตราค่าเล่าเรียน ประเทศเหล่านี้ ก็จะได้รับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น