“อาคม เอ่งฉ้วน” เผยไต๋ไม่สนับสนุนคนชื่อ “สมบูรณ์” ลงชิงเก้าอี้ ในนามพรรค ปชป. อ้างเคยลาออกไปอยู่พรรคอื่น พร้อมหนุน “สมศักดิ์” ฝ่ายตรงข้ามเป็นนายก
ด้านนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.ปชป.กระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ พันธ์วิชาติกุล และนายสาคร เกี่ยวข้อง 2 ส.ส.ปชป.กระบี่ ได้แถลงข่าวเปิดตัวนายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ อดีต ส.ส.ปชปกระบี่เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ส่งลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.กระบี่ ที่จะหมดวาระลงเร็วๆนี้ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะส่งคนชื่อสมบูรณ์ ลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เพราะโดยคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัคร ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง แต่ตนจะไม่ขอกล่าวถึงว่ามีเรื่องอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ก็คือก่อนหน้านี้เคยเป็นสมาชิกและ ส.ส.ปชป.แต่ได้ลาออกไปอยู่พรรคอื่นก่อนที่จะกลับมาอยู่พรรค ปชป.อีกครั้ง และลงชิงนายก อบจ.ในนามพรรค
นายอาคม ได้กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ตนไม่ยอมไปร่วมแถลงข่าว กับนายพิเชษฐ์ นอกจากไม่เห็นด้วยกับตัวว่าที่ผู้สมัครแล้ว ยังไม่พอใจการดำเนินการของนายพิเชษฐ์ ด้วย เพราะไม่เคยปรึกษาว่าจะส่งใครลงสมัคร อยู่ๆก็หยิบคนชื่อ สมบูรณ์มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร และในที่ประชุมพรรคตนก็คัดค้ามาตลอด แต่ทางนายพิเชษฐ์ก็มาอ้างว่าตนเห็นด้วยตามมติพรรค ซึ่งไม่เป็นความจริงและในที่ประชุมพรรคก็ไม่ได้มีการลงมติแต่อย่างใด เพียงแต่พรรคให้ตนกับนายพิเชษฐ์ ไปตกลงกันเองว่าจะสนับสนุนใครลงสมัคร เพราะเห็นว่าตนทั้ง 2 หัวงอกกันแล้ว ไม่ควรจะขัดแย้งกันในเรื่องดังกล่าว และว่าโดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใดเพียงแต่ความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นในเรื่องของการส่งตัวว่าที่ผู้สมัครลงชิงนายก อบจ.
นายอาคม ยังกล่าวถึงกรณีที่ทาง ส.อบจ.กลุ่มประชาธิปัตย์ ปัจจุบัน ส่วนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่กับกลุ่มรักกระบี่ ที่มีนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคู่แข่งกันมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มองว่ากลุ่มรักกระบี่ คือนอมินีไทยรักไทย ว่า ปัจจุบันไทยรักไทยไม่มีแล้ว และกลุ่มรักกระบี่ ก็ไม่ได้เป็นนอมินีพรรคพลังประชาชนด้วย ตนจึงพร้อมที่จะสนับสนุนนายสมศักดิ์ ในสมัยที่จะถึงนี้แทนที่จะสนับสนุนนายสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม และส่วนสมาชิกนั้นที่ไปอยู่กับกลุ่มรักกระบี่ ก็ยังเป็นประชาธิปัตย์
“ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทางนายสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัครซึ่งเป็นคนมุสลิม พยายามนำศาสนามาเป็นเครื่องมือหาเสียงนั้น ตนมองว่าเป็นความไม่เหมาะสม เพราะการเมืองกระบี่ไม่ได้แตกแยกในเรื่องของศาสนา ซึ่งตนเองก้ได้รับการสนับสนุนจากมุสลิมเป็นจำนวนมากจนได้รับคะแนนเป็นอันหนึ่งจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาของผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเสียงสนับสนุนจากคนมุสลิม ซึ่งเราในฐานะนักการการเมือง อย่านำศาสนามาจุดฉนวนสร้างความแตกแยก ซึ่งจะไม่ส่งผลดีกับใคร และว่าการที่ตนสนับสนุนกลุ่มรักกระบี่แทนที่จะสนับสนุนกลุ่มประชาธิปัตย์ คนกระบี่จะเป็นคนชี้ขาดเอง”
ด้านนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.ปชป.กระบี่ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ พันธ์วิชาติกุล และนายสาคร เกี่ยวข้อง 2 ส.ส.ปชป.กระบี่ ได้แถลงข่าวเปิดตัวนายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ อดีต ส.ส.ปชปกระบี่เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ส่งลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.กระบี่ ที่จะหมดวาระลงเร็วๆนี้ว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะส่งคนชื่อสมบูรณ์ ลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เพราะโดยคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัคร ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง แต่ตนจะไม่ขอกล่าวถึงว่ามีเรื่องอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ก็คือก่อนหน้านี้เคยเป็นสมาชิกและ ส.ส.ปชป.แต่ได้ลาออกไปอยู่พรรคอื่นก่อนที่จะกลับมาอยู่พรรค ปชป.อีกครั้ง และลงชิงนายก อบจ.ในนามพรรค
นายอาคม ได้กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ตนไม่ยอมไปร่วมแถลงข่าว กับนายพิเชษฐ์ นอกจากไม่เห็นด้วยกับตัวว่าที่ผู้สมัครแล้ว ยังไม่พอใจการดำเนินการของนายพิเชษฐ์ ด้วย เพราะไม่เคยปรึกษาว่าจะส่งใครลงสมัคร อยู่ๆก็หยิบคนชื่อ สมบูรณ์มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร และในที่ประชุมพรรคตนก็คัดค้ามาตลอด แต่ทางนายพิเชษฐ์ก็มาอ้างว่าตนเห็นด้วยตามมติพรรค ซึ่งไม่เป็นความจริงและในที่ประชุมพรรคก็ไม่ได้มีการลงมติแต่อย่างใด เพียงแต่พรรคให้ตนกับนายพิเชษฐ์ ไปตกลงกันเองว่าจะสนับสนุนใครลงสมัคร เพราะเห็นว่าตนทั้ง 2 หัวงอกกันแล้ว ไม่ควรจะขัดแย้งกันในเรื่องดังกล่าว และว่าโดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใดเพียงแต่ความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นในเรื่องของการส่งตัวว่าที่ผู้สมัครลงชิงนายก อบจ.
นายอาคม ยังกล่าวถึงกรณีที่ทาง ส.อบจ.กลุ่มประชาธิปัตย์ ปัจจุบัน ส่วนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่กับกลุ่มรักกระบี่ ที่มีนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคู่แข่งกันมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มองว่ากลุ่มรักกระบี่ คือนอมินีไทยรักไทย ว่า ปัจจุบันไทยรักไทยไม่มีแล้ว และกลุ่มรักกระบี่ ก็ไม่ได้เป็นนอมินีพรรคพลังประชาชนด้วย ตนจึงพร้อมที่จะสนับสนุนนายสมศักดิ์ ในสมัยที่จะถึงนี้แทนที่จะสนับสนุนนายสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม และส่วนสมาชิกนั้นที่ไปอยู่กับกลุ่มรักกระบี่ ก็ยังเป็นประชาธิปัตย์
“ส่วนกระแสข่าวที่ว่าทางนายสมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัครซึ่งเป็นคนมุสลิม พยายามนำศาสนามาเป็นเครื่องมือหาเสียงนั้น ตนมองว่าเป็นความไม่เหมาะสม เพราะการเมืองกระบี่ไม่ได้แตกแยกในเรื่องของศาสนา ซึ่งตนเองก้ได้รับการสนับสนุนจากมุสลิมเป็นจำนวนมากจนได้รับคะแนนเป็นอันหนึ่งจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาของผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเสียงสนับสนุนจากคนมุสลิม ซึ่งเราในฐานะนักการการเมือง อย่านำศาสนามาจุดฉนวนสร้างความแตกแยก ซึ่งจะไม่ส่งผลดีกับใคร และว่าการที่ตนสนับสนุนกลุ่มรักกระบี่แทนที่จะสนับสนุนกลุ่มประชาธิปัตย์ คนกระบี่จะเป็นคนชี้ขาดเอง”