ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ภาคธุรกิจท่องเที่ยวในสงขลา ประสานเสียงขานรับผุดกาสิโนหาดใหญ่สร้างจุดขายใหม่ สู้มาเลเซีย-สิงคโปร์ ชี้นักพนันไทยแห่เสี่ยงดวงขนเงินออกนอกประเทศปีละแสนบ้านบาท โว สิงคโปร์ล้ำหน้าถึงขั้นประกาศศักดาเจ้าพ่อกาสิโนแห่งเอเชีย เตรียมเปิดตัวแห่งใหม่ปีหน้า นักวิชาการจวกรัฐเปิดทางเสื่อมทำลายสังคม แต่หากลืมศีลธรรมแนะช่วยหามาตรการกันเยาวชนและเปิดห่างชุมชน
คล้อยหลังจากการเดินทางกลับเยือนประเทศกัมพูชาของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี การโยนหินถามทางถึงการสร้างกาสิโนในเมืองท่องเที่ยวหลัก 5 แห่ง ทั้ง จ.เชียงใหม่, ขอนแก่น, พัทยา, ภูเก็ต และ หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำให้กระแสต่อเรื่องดังกล่าวมีหลากหลาย ทั้งที่เห็นด้วยกับเม็ดเงินที่จะได้รับซึ่งรัฐบาลได้โปรยยาหอมว่าเพื่อนำมาพัฒนาประเทศนั่นเอง แต่เสียงอีกด้านหนึ่งกลับชี้ว่าเป็นการสะท้อนถึงภูมิปัญหาของผู้นำประเทศที่จะนำพาสังคมสู่ทางเสื่อม โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ นั้นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงไม่แพ้กัน
นายนิมิตร ชัยจีระธิกุล ประธานสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว จ.สงขลา เปิดเผยว่า หากสังคมไทย ยอมรับว่า ปัจจุบันมีบ่อนเล่นการพนันผิดกฎหมายแอบเปิดบริการเอาใจนักพนันหลายจุดซึ่งรู้จักกันดี ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ก็มีกาสิโนถูกต้องกฎหมายที่เป็นแม่เหล็กสำคัญให้นักพนันไทยเข้าไปใช้บริการ ประมาณการณ์ว่ามีวงเงินหมุนเวียนนับแสนล้านบาท/ปีเลยทีเดียว
หากรัฐมีแนวคิดจะทดลองเปิดกาสิโนให้ถูกกฎหมายและเก็บรายได้เพื่อพัฒนาประเทศก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่น่าเห็นด้วย ว่า นอกจากเงินในกระเป๋าคนไทยไม่รั่วไหลออกนอกประเทศแล้ว จะทำให้มีเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาใช้บริการและท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย แต่ต้องมีการวางมาตราการจำกัดให้มีเฉพาะคนที่เข้าไปให้มีคุณสมบัติและมีความพร้อมเข้ามาใช้บริการ โดยป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้ามามั่วสุมและเกี่ยวพัน
ประธานสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว จ.สงขลา กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลส่งเสริมให้กาสิโนเกิดขึ้นใน อ.หาดใหญ่ ก็เห็นว่าเป็นพื้นที่เหมาะสมที่อยู่ใกล้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นจุดขายใหม่ให้กับหาดใหญ่ ทำให้นอกจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาตามปกติแล้วก็จะเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มชอบเล่นการพนันไปด้วย
ทั้งนี้ พบว่า ปัจจุบันภาคใต้นิยมไปเที่ยวและเล่นการพนันทั้งที่เกนติ้ง ประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเปิดกาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยปี 2552 นี้ สิงคโปร์จะเปิดกาสิโนแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียอีกด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรีมการประชาสัมพันธ์และเพิ่มเที่ยวบินเชื่อมมายังประเทศไทย
ด้าน นายสรจักร จูทอง นายกสมาคมธุรกิจบันเทิง จ.สงขลา กล่าวในทำนองเดียวกันว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้เปิดกาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และนำไปสู่การพัฒนาจุดขายด้านอื่นๆ ตามมา แต่ต้องมีการจัดระเบียบและมาตรการรองรับมากกว่าพื้นที่อื่น เนื่องด้วยถือเป็นการพนันที่ไม่ควรเปิดช่องให้เยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ การจำกัดอายุ หรือแม้แต่เปิดบริการเฉพาะนักพนันชาวต่างชาติ เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้ว่าการเมือหาดใหญ่จะมีความเหมาะสมที่จะเปิดกาสิโน เพราะอยู่ใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ที่รู้จักมานาน แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องควบคู่กับความปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวกล้าเข้ามาในหาดใหญ่ และทุกฝ่ายเรียกร้องมาโดยตลอด
ขณะที่ นายจรูญ หยูทอง นักวิจัยสถาบันทักษิณคดี มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้คัดค้านแนวคิดดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะกับสังคมชาวพุทธ และเม็ดเงินที่ได้ไม่คุ้มกับสิ่งที่สังคมต้องสูญเสียซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นเงินได้ เพราะไม่ว่าอบายมุขจะถูกต้องตามกฎหมายแต่ก็ยังผิดศีลธรรม และเป็นหนทางไปสู่ความเสื่อมทั้งปวง ซึ่งการเติบโตพัฒนาประเทศที่ได้จากเม็ดเงินพนันนั้นจะทำให้สังคมเหลวแหลก และรัฐบาลควรจะปลูกฝังให้เยาวชนและคนไทยแสวงหาเงินโดยสุจริตในอาชีพเพื่อเป็นแบบอย่างกับคนอื่นๆ มากกว่า เพราะเงินหรือทรัพย์อันเป็นมงคลต้องไม่ได้จากการพนัน
“การที่ผลักดันให้สิ่งผิดกฎหมายมาเป็นเรื่องถูกกฎหมายนั้น สะท้อนภาวะความคิดของผู้นำประเทศที่อยู่ในภาวะยอมจำนน โดยใช้ข้ออ้างว่าที่อื่นก็มีก็เลยต้องทำบ้าง กฎหมายต้องเป็นนิติธรรมเพื่อรักษาความเป็นธรรมในสังคม ไม่ใช้รองรับการกระทำไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นต่อไปอาจจะมีการขึ้นทะเบียนมือปืนก็เป็นได้ อยู่ที่ผู้นำว่าจะยึดกฎหมายเป็นเครื่องมือหรือใช้ศีลธรรมเข้าร่วมด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้มากๆ เข้าคนสุจริตก็ไม่มีที่ยืน เพราะใครๆ ก็ทำแบบนั้นหมดแล้ว” นายจรูญ กล่าว และว่า
ทั้งนี้ หากรัฐบาลมองข้ามเสียงคัดค้านและผลักดันให้เกิดขึ้นจริง ก็อยากให้คิดมาตรการรองรับเพื่อแก้ปัญหาอื่นๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อคนสุจริต เด็ก และเยาวชน เช่นเรื่องทำเลที่ต้องไม่อยู่ในชุมชน หรือสถานที่เข้าถึงง่าย