ชุมพร - ขาใหญ่ชุมพรเขม่นกันในร้านคาราโอเกะ หลังแย่งจีบเด็กเสิร์ฟ-ชิงไมค์ร้องเพลง หลังเลิกร้านกลับบ้าน ยกพวกยิง แทง ตาย 1 ราย สาหัสอีก 2 ราย ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีแล้ว
วันนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี สารวัตรเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านคาราโอเกะ ไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน พ.ต.ท.นริศ ตันเจริญ รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นร้านคาราโอเกะ ชื่อ “นกน้อย” ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย 41
ตรวจสอบพบที่ลานจอดรถหลังร้าน มีเพียงกองเลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่ว และร่องรอยการต่อสู้ มีผู้ถูกยิง และถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังสวน ทราบชื่อ นายสายัณห์ จันทร์ศิริ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 9 ต.พ้อแดง อ.หลังสวน จ.ชุมพร อาชีพขายหมู ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ราวนมขวา แขนขวา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อ นายนิมิตร ดึงสุวรรณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 14 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถูกยิงเข้าที่ขาขวา อาการสาหัส เนื่องจากเสียเลือดมาก และนายดิเรก ภัคดีมาก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถ.เพชรเกษม อ.หลังสวน จ.ชุมพร อาชีพรับจ้าง ถูกแทงเข้าที่หน้าอก แขนซ้าย อาการสาหัสเช่นกัน
จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากร้านคาราโอเกะ “นกน้อย” ได้ปิดร้านเลิกให้บริการลูกค้าแล้ว กลุ่มของนายสายัณห์ผู้ตาย ซึ่งมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ประมาณ 3-4 คน ได้เดินกันไปที่บริเวณลานจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถจักรยานยนต์กลับที่พัก ได้เกิดเหตุตะลุมบอนกับกลุ่มของนายดิเรก ซึ่งมาเที่ยวร้านคาราโอเกะนกน้อยกับเพื่อน ๆ 3-4 คน เช่นกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เกิดเขม่นกันก่อนแล้วหน้านี้ เมื่อทั้งสองกลุ่มมาเจอหน้ากันที่ลานจอดรถ จึงยกพวกตะลุมบอนกันอย่างชุลมุนนานกว่า 10 นาที จนมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังเหตุการณ์สงบ มีคนถูกยิงเสียชีวิต และถูกแทงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนสาเหตุทราบว่า ทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้เข้าไปเที่ยวในร้านคาราโอเกะดังกล่าว เมื่อดื่มกินกันเมาเหล้าได้ที่แล้ว ได้เกิดแย่งชิงกันจีบพนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนหนึ่ง และชิงไมค์ร้องเพลงแข่งกันไปมา
จนทำให้เกิดการเขม่นกันขึ้น กระทั่งร้านเลิก และออกมาเจอกันที่ลานจอดรถจึงยกพวกรุมตีกันจนมีคนถูกยิงตาย และถูกแทงบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 ฝ่าย นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว.
วันนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี สารวัตรเวร สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านคาราโอเกะ ไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน พ.ต.ท.นริศ ตันเจริญ รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นร้านคาราโอเกะ ชื่อ “นกน้อย” ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย 41
ตรวจสอบพบที่ลานจอดรถหลังร้าน มีเพียงกองเลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่ว และร่องรอยการต่อสู้ มีผู้ถูกยิง และถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังสวน ทราบชื่อ นายสายัณห์ จันทร์ศิริ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 9 ต.พ้อแดง อ.หลังสวน จ.ชุมพร อาชีพขายหมู ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ราวนมขวา แขนขวา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อ นายนิมิตร ดึงสุวรรณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 14 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถูกยิงเข้าที่ขาขวา อาการสาหัส เนื่องจากเสียเลือดมาก และนายดิเรก ภัคดีมาก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถ.เพชรเกษม อ.หลังสวน จ.ชุมพร อาชีพรับจ้าง ถูกแทงเข้าที่หน้าอก แขนซ้าย อาการสาหัสเช่นกัน
จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากร้านคาราโอเกะ “นกน้อย” ได้ปิดร้านเลิกให้บริการลูกค้าแล้ว กลุ่มของนายสายัณห์ผู้ตาย ซึ่งมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ประมาณ 3-4 คน ได้เดินกันไปที่บริเวณลานจอดรถหลังร้าน เพื่อขับรถจักรยานยนต์กลับที่พัก ได้เกิดเหตุตะลุมบอนกับกลุ่มของนายดิเรก ซึ่งมาเที่ยวร้านคาราโอเกะนกน้อยกับเพื่อน ๆ 3-4 คน เช่นกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เกิดเขม่นกันก่อนแล้วหน้านี้ เมื่อทั้งสองกลุ่มมาเจอหน้ากันที่ลานจอดรถ จึงยกพวกตะลุมบอนกันอย่างชุลมุนนานกว่า 10 นาที จนมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังเหตุการณ์สงบ มีคนถูกยิงเสียชีวิต และถูกแทงได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนสาเหตุทราบว่า ทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้เข้าไปเที่ยวในร้านคาราโอเกะดังกล่าว เมื่อดื่มกินกันเมาเหล้าได้ที่แล้ว ได้เกิดแย่งชิงกันจีบพนักงานเสิร์ฟสาวสวยคนหนึ่ง และชิงไมค์ร้องเพลงแข่งกันไปมา
จนทำให้เกิดการเขม่นกันขึ้น กระทั่งร้านเลิก และออกมาเจอกันที่ลานจอดรถจึงยกพวกรุมตีกันจนมีคนถูกยิงตาย และถูกแทงบาดเจ็บดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง 2 ฝ่าย นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว.