นราธิวาส - โจรใต้ลอบวางระเบิดทหารชุดลาดตระเวนก่อนยิงถล่มซ้ำ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 6 นาย ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ขณะที่ ร.อ.อดิสวน คำช่วย ผบ.ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31 พร้อมกำลังรวม 6 นาย นั่งรถยนต์ของสังกัดกลับจากประชุมวางแผนเพื่อตรวจค้นเป้าหมายกลุ่มโจรใต้ที่ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อถึงบริเวณสามแยกหน้ามัสยิดยานิง ม.2 ต.จวบ ซึ่งเยื้องกับสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ได้มีคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 15 ก.ก.ที่นำไปฝังไว้กลางถนน ส่งผลทำให้รถยนต์ที่ ร.อ.อดิสวน และผู้ใต้บังคับบัญชานั่งมา พลิกคว่ำตกไหล่ทาง ทำให้ ส.อ.สำราญ รูปชัยนาม อายุ 28 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน ร.อ.อดิสวน และลูกน้องอีก 4 คน ถูกแรงอัดของระเบิดมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ
และเมื่อ ร.อ.อดิสวน ตั้งสติได้จึงได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.203 ยิงใส่เข้าไปในป่ารกทึบริมทาง จำนวน 2 ลูกซ้อน ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้เป็นสถานที่ในการดักซุ่มจุดชนวนระเบิด พร้อมทั้งได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยัง ฐานปฏิบัติการณ์ทหารชุด ร้อย ร.15114 ฉก.นราธิวาส 31 ซึ่งตั้งฐานอยู่ภายในวัดเจาะไอร้อง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร เพื่อขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าเสริม เกรงจะถูกกลุ่มคนร้ายโจมตีซ้ำ และในระหว่างที่ทหารนั่งรถยนต์ออกจากฐานได้ ประมาณ 50 เมตร ได้ถูกกลุ่มคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบข้างรั้วโรงเรียนบ้านเจาะไอร้อง ใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงใส่รถยนต์ของเจ้าหน้า จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกัน เป็นระลอกนานกว่า 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้นั่งรถยนต์ไปทำการช่วยเหลือ ร.อ.อดิสวน และพวกรวม 6 นาย ส่งรักษาโรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นการเร่งด่วน
ต่อมาเมื่อรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ทองสุข จรัลพงศ์ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง พ.ต.ต.ฉลอง คงจันทร์ สว.นปพ.จ.นราธิวาสพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบไว้ตามถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปทำการช่วยเหลือ จนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่วิ่งผ่านไปมา ถูกตะปูเรือใบได้รับความเสียหายไปเกือบ 10 คัน
ซึ่งล่าสุดเมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกันปิดล้อมพื้นที่ เพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบ พร้อมกระจายกำลังกันโอบล้อมพื้นที่ เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมกลุ่มคนร้ายในช่วงเช้าต่อไป
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ขณะที่ ร.อ.อดิสวน คำช่วย ผบ.ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31 พร้อมกำลังรวม 6 นาย นั่งรถยนต์ของสังกัดกลับจากประชุมวางแผนเพื่อตรวจค้นเป้าหมายกลุ่มโจรใต้ที่ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อถึงบริเวณสามแยกหน้ามัสยิดยานิง ม.2 ต.จวบ ซึ่งเยื้องกับสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ได้มีคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง หนัก 15 ก.ก.ที่นำไปฝังไว้กลางถนน ส่งผลทำให้รถยนต์ที่ ร.อ.อดิสวน และผู้ใต้บังคับบัญชานั่งมา พลิกคว่ำตกไหล่ทาง ทำให้ ส.อ.สำราญ รูปชัยนาม อายุ 28 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดตามลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน ร.อ.อดิสวน และลูกน้องอีก 4 คน ถูกแรงอัดของระเบิดมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ
และเมื่อ ร.อ.อดิสวน ตั้งสติได้จึงได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.203 ยิงใส่เข้าไปในป่ารกทึบริมทาง จำนวน 2 ลูกซ้อน ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้เป็นสถานที่ในการดักซุ่มจุดชนวนระเบิด พร้อมทั้งได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยัง ฐานปฏิบัติการณ์ทหารชุด ร้อย ร.15114 ฉก.นราธิวาส 31 ซึ่งตั้งฐานอยู่ภายในวัดเจาะไอร้อง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร เพื่อขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าเสริม เกรงจะถูกกลุ่มคนร้ายโจมตีซ้ำ และในระหว่างที่ทหารนั่งรถยนต์ออกจากฐานได้ ประมาณ 50 เมตร ได้ถูกกลุ่มคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบข้างรั้วโรงเรียนบ้านเจาะไอร้อง ใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงใส่รถยนต์ของเจ้าหน้า จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากปะทะกัน เป็นระลอกนานกว่า 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้นั่งรถยนต์ไปทำการช่วยเหลือ ร.อ.อดิสวน และพวกรวม 6 นาย ส่งรักษาโรงพยาบาลเจาะไอร้องเป็นการเร่งด่วน
ต่อมาเมื่อรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ทองสุข จรัลพงศ์ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง พ.ต.ต.ฉลอง คงจันทร์ สว.นปพ.จ.นราธิวาสพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบไว้ตามถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปทำการช่วยเหลือ จนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่วิ่งผ่านไปมา ถูกตะปูเรือใบได้รับความเสียหายไปเกือบ 10 คัน
ซึ่งล่าสุดเมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกันปิดล้อมพื้นที่ เพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่ายังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่ารกทึบ พร้อมกระจายกำลังกันโอบล้อมพื้นที่ เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมกลุ่มคนร้ายในช่วงเช้าต่อไป
