ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บัตรไทยแลนด์อีลิท เตรียมจับมือจังหวัดภูเก็ตและเอกชนในพื้นที่ ดึงสมาชิกบัตรกว่า 2,500 คน เข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในภูเก็ต ด้วยการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนประจำจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันเพื่อขับเคลื่อน ก่อนจะขยายไปเชียงใหม่ หัวหิน พัทยา และเกาะสมุย
นายณัฐพล เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายประสานงานราชการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินการบัตร ไทยแลนด์ อีลิท เปิดเผยว่า บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ เป็นบริษัทในเครือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยททท.ถือหุ้น 100% จึงมีหน้าที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนในประเทศ ซึ่งบริษัทมองว่า จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนสูงมาก ทั้งในปัจจุบันและอนาคต สำหรับส่งเสริมให้สมาชิกบัตรไทยแลนด์อีลิทเข้ามาท่องเที่ยวและเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ เนื่องสมาชิกบัตรไทยแลนด์อีลิทที่มีอยู่ในขณะนี้ประมาณ 2,500 กว่าคน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงมาก และจากการสำรวจของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า ภายใน 1 สัปดาห์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยระหว่างที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงถึงหัวละ 340,000 บาท และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจทั้งสิ้น ดังนั้น การที่เราดึงเขาเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ก็ต้องการที่จะให้เขาเข้ามาลงทุนในประเทศด้วย และจังหวัดภูเก็ตก็เป็นเป้าหมายหนึ่ง ที่สมาชิกบัตรให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น บริษัทจึงได้ที่จะดึงสมาชิกบัตรเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุน ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของประเทศ 5 พื้นที่ โดยนำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการลงทุนประจำจังหวัดภูเก็ตสำหรับสมาชิกบัตรอีลิท ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กรรมการผู้จัดการของบริษัท นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สำนักงานจังหวัดภูเก็ต ผอ.ททท.ภาคใต้เขต 4 ผอ.ท่าอากาศยานภูเก็ต ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ตอนบน
ทั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบาย ในการดึงสมาชิกบัตรอีลิทเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนในพื้นที่ภูเก็ต รวมทั้งดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รู้จักบัตรไทยแลนด์อีลิทและลู่ทางการลงทุนในภูเก็ต
หลังจากที่ดำเนินการที่ภูเก็ตแล้วเสร็จ ก็จะขยายไปยัง 4 พื้นที่ที่เหลือ คือ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ปราณบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พัทยา จ.ชลบุรี และเชียงใหม่
“การดำเนินการดังกล่าวบริษัทมีเป้าหมายที่จะให้เกิดประโยชน์ ทั้งในพื้นที่ที่ดำเนินการคือให้สมาชิกบัตรฯเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุน ส่วนบริษัทก็จะมีสมาชิกบัตรฯเพิ่มขึ้น” นายณัฐพล กล่าวและว่า
ทั้งนี้ เพราะนอกจากการขายสมาชิกบัตรจากเอเยนต์ในต่างประเทศแล้ว บริษัทมีเป้าหมายที่จะประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ ได้รู้จักบัตรและเมื่อกลับไปประเทศของตน ก็สามารถที่จะเป็นสมาชิกบัตรฯได้จากเอเยนต์ในประเทศของตนเอง
สำหรับบัตรไทยแลนด์อีลิท เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 โดยมติคณะรัฐมนตรี โดยขายบัตรให้คนต่างชาติที่เป็นสมาชิกรายละ 1 ล้านบาท และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไปได้ปรับค่าสมาชิกเป็น 1.5 ล้านบาท โดยขณะนี้มีสมาชิกทั่วโลกประมาณ 2,500 คน จากเป้าหมายที่วางไว้ 1 ล้านคน ซึ่งสมาชิกจะมีสิทธิพิเศษในเรื่องของการตรวจคนเข้าเมือง การบริการรับส่งไปยังโรงแรมที่พัก การเล่นกอล์ฟและใช้บริการ สปาปีละ 24 ครั้ง เป็นต้น