xs
xsm
sm
md
lg

ญาติ “ตชด.ยิงตัวตาย” วอนสื่ออย่าพิพากษาลูกน้อง “ผู้กองณัฏฐ์” เป็นโจรทุกคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง – ครอบครัว “ตชด.ยิงตัวตาย” สุดเศร้า หลัง “จ.ส.ต.” ปลิดชีวิตลาโลก ชี้น้อยใจสื่อพิพากษา ตชด.ในหมายจับทุกคนเป็นโจร น้องชายอ้างพี่เป็นคนกล้าหาญ-ตรงไปตรงมา วอนเพื่อนร่วมทีมเข้ามอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์ให้พี่

จากกรณีที่ จ.ส.ต.จรูญ แก้วกูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 หมู่ที่ 5 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 426 กระบี่ ปัจจุบันไปช่วยราชการอยู่ที่หมวดเฉพาะกิจ ตชด.ยะลา และเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีร่วมกันอุ้มรีดไถ และยัดยาบ้าให้ประชาชน ซึ่ง ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ เป็นหัวหน้าชุด

ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น ประจำกาย ขนาด .357 ปลิดชีพตนเอง ด้วยการจ่อยิงที่หน้าอกด้านซ้าย กระสุนทะลุหัวใจ 1 นัด ภายในขนำบ่อเลี้ยงกุ้ง บ้านทุ่งค่าย หมู่ที่ 5 ตำบลบางสัก ซึ่งเป็นของ จ.ส.ต.จรูญ เอง เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมานั้น

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ต.อัสรี ต่วนเพ็ง ผู้บังคับกองร้อย ตชด.435 ตรัง และหัวหน้าชุดยุทธการเฉพาะกิจ ตชด.44 ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ ตชด.435 ตรัง จำนวน 5 คน ได้เดินทางไปยังสถานที่ตั้งงานบำเพ็ญกุศลศพของ จ.ส.ต.จรูญ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเคยคาดคิด โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลากี่วัน

อย่างไรก็ตาม บรรดาน้องๆ ของ จ.ส.ต.จรูญ ทุกคน ก็ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของพี่ชาย พร้อมทั้งขอความเป็นธรรมต่อสังคมและกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับขอให้การตายของพี่ชายในครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ข้าราชการตำรวจทุกคน และขอให้เพื่อนร่วมทีมของพี่ชายที่ปรากฏชื่อในหมายจับติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี และช่วยยืนยันต่อความบริสุทธิ์ของพี่ชายด้วย

จ.ส.ต.อักครา แก้วกูล สังกัดฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.ห้วยยอด จังหวัดตรัง น้องชายผู้ตาย เล่าว่า โดยปกติพี่ชายเป็นคนที่นิสัยเงียบ นิ่ง มีความกล้าหาญ และเป็นคนตรงไปตรงมา ซึ่งการที่พี่ชายตัดสินใจอย่างนี้ ก็เพราะน้อยใจในความไม่ยุติธรรม เพราะพี่ชายพูดเสมอว่า ทำไมคนที่มีสังกัด และทำงานเพื่อประเทศชาติมาโดยตลอด จึงไม่มีความน่าเชื่อถือโดยไม่ยินยอมให้มีการประกันตัว แต่ทำไมคนร้ายที่กระทำความผิดจริง จึงให้มีการประกันตัวออกไป ซึ่งการทำงานเพื่อชาติมาตลอด 13 ปี ไม่มีใครเห็นความสำคัญเลยหรือ

อย่างไรก็ตาม การนำเสนอข่าวของสื่อที่ระบุว่า บุคคลที่มีชื่อในหมายจับทุกคนเป็นตำรวจโจร ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นคำพูดที่สร้างความเสียใจให้แก่พี่ชายที่สุด เพราะครอบครัวของตนโตมาด้วยคำสอนของแม่ที่ให้เป็นคนดี ทั้งนี้ พี่ชายและตนเองถูกปลูกฝังจากแม่ ว่า เมื่อโตขึ้นมาจะต้องเป็นตำรวจ เพราะน้องชายของแม่มีอาชีพเป็น ตชด.ซึ่งมีความสนิทและคลุกคลีกับพวกตนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งพี่ชายและทุกคนในบ้านรู้สึกเสียใจกับการนำเสนอข่าวของสื่อ

ส่วนทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้ เป็นมรดกที่ตกทอดกันมา ประกอบด้วย ที่ดินที่ใช้ในการทำสวนยางพารา และบ่อกุ้ง รวมประมาณ 60 ไร่ และยังมีสวนปาล์มน้ำมันที่พี่น้องทั้ง 5 คน ได้ร่วมหุ้นกันซื้อไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว รวมประมาณ 75 ไร่ โดยที่ครอบครัวในขณะนี้ก็ยังเป็นหนี้สินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นจำนวนกว่า 3 ล้านบาทด้วย

ดังนั้น จึงถือว่าไม่เป็นความจริงที่พี่ชายจะมีพฤติกรรมดังกล่าว แล้วนำเงินมาจุนเจือครอบครัว เพราะบางครั้งพี่ชายยังมีการขอยืมเงินจากน้องๆ คนอื่น เพื่อนำไปเลี้ยงดูครอบครัวอีกด้วย หากเป็นจริงครอบครัวคงจะไม่มีหนี้สินมากมายขนาดนี้ จึงอยากขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายที่ถูกต้องและชัดเจน พร้อมกับขอให้สังคมอย่างตัดสินอะไรโดยผิวเผิน

นางนาถยา แก้วกูล ภรรยาผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า โดยปกติสามีจะเดินทางไปทำงานเดือนละ 20 วัน และจะกลับมาอยู่ที่บ้านกับลูกเมีย เดือนละประมาณ 8 วันเท่านั้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 13 ปี ที่สามีรับราชการตำรวจ ก็ได้พักอาศัยอยู่บ้านพักในค่ายมาโดยตลอด ซึ่งสามีจะเป็นคนที่หาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ส่วนลูกชายขณะนี้มีอายุ 6 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ในจังหวัดกระบี่ โดยที่มีความสนิทสนมกับ จ.ส.ต.จรูญ ผู้เป็นพ่อ อย่างมาก

ทั้งนี้ เมื่อทุกครั้งที่ จ.ส.ต.จรูญ กลับจากทำงาน ก็จะมีการเล่นหยอกล้อเล่นและนอนกอดกับลูกชายทุกคืน ส่วนเมื่อลูกชายเมื่อโตขึ้นแล้ว ทั้งตนเองและสามีไม่เคยมีความคิดที่จะให้เป็นตำรวจเลย รวมทั้งไม่มีการปลูกฝังให้ลูกชายรักในอาชีพตำรวจด้วย และคดีที่เกิดขึ้นขอให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างชัดเจนมากที่สุด ซึ่งตนเองก็ไม่อยากขออะไรมากกว่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น