ยะลา - ตำรวจยะลาใช้มาตรการจอดรถเปิดเบาะเพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย สถานที่ราชการทุกจุดในพื้นที่ยะลา ตรวจรถจักรยานยนต์เข้ม
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสเสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา โครงการรณรงค์ป้องกันการก่อเหตุร้าย โดยใช้มาตรการจอดรถเปิดเบาะ แขวนหมวกกันน็อก เพื่อเป็นการง่ายต่อการดูแลความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ในเขตเทศบาลนครยะลา หลังพบว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ตระเวนเดินสายขโมยรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปประกอบเป็นรถจักรยานยนต์บอมบ์เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เทศบาลนครยะลา และอำเภอรอบนอกของจังหวัดยะลา จนทำให้เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสเสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นโครงการรณรงค์ให้ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ เปิดเบาะและแขวนหมวกกันน็อกทุกครั้งที่นำไปจอดยังที่สาธารณะ เช่น ตลาด ชุมชน ย่านการค้า และ สถานที่ราชการ โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลารับทราบและถือปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้าย ซึ่งระยะหลังพบว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มักจะนำระเบิดซุกซ่อนมากับรถจักรยานยนต์แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ในย่านชุมชน จนเกิดเหตุร้ายทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายราย ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้นำมาใช้เป็นมาตรการสำคัญผ่านมาแล้ว 3 วัน ในจำนวน 10 จุด ที่พบว่าเป็นจุดเสี่ยงอันตราย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนดีมาก แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนให้รับทราบถึงวัตถุประสงค์
ส่วนที่บริเวณด้านหน้าของศาลากลางจังหวัดยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.เปิดเบาะ และ แขวนหมวกกันน็อก รถ จักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปทำงานในบริเวณศาลากลาง และผู้ที่มาติดต่อราชการ ทั้งหมดเพื่อป้องกันการเหตุร้าย ทั้งนี้ นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลายังได้สั่งการให้ทุกๆ อำเภอรับทราบ และปฏิบัติตามโครงการอย่างเคร่งครัด
นายมาวันดี รามันห์สิริวงศ์ ประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ดี มีมาตรการที่ดีในการดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชน ตนเองก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และอยากจะให้มีการนำมาตรการดังกล่าวนี้ไปใช้ทั่วทุกจุดในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุร้าย