นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาสมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบอีกกว่า 7 ล้านบาท ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตยังทำใจไม่ได้วอนภาครัฐติดตามคนร้าย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 54 ราย เป็นเงินรวม 8,050,000 บาท โดยการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต แยกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 18 ราย เป็นเงิน 9,000,000 บาท ประชาชนเสียชีวิต 8 ราย เป็นเงิน 4,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 19 ราย เป็นเงิน 2,700,000 บาท
สำหรับก่อนหน้านี้ทางจังหวัดนราธิวาสได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 302,097,819 บาท จำนวน 3,738 บาท ซึ่งหลังจากนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งสำรวจผู้ที่ยังตกหล่นและยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเพื่อมอบเงินเยียวยาให้ครบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทุกราย
อีกทั้งทางจังหวัดนราธิวาสและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมันคงมีการปรับแผนการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นหรือเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
ด้าน นางซีตีมารีแย ดามะมิง ภรรยาผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่เข้ารับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ต้องสูญเสียสามีไปครอบครัวตนเองก็ลำบาก การได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะตนเองจะนำไปเป็นทุนการศึกษาบุตร แต่อย่างไรก็ตาม อยากที่จะให้ภาครัฐช่วยเหลือด้านการศึกษาของบุตรอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเสียชีวิตของสามีนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถทำใจได้ และยังคิดที่จะแก้แค้นกลุ่มที่ทำร้ายสามีแต่ก็ไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นใคร แต่ที่พึ่งได้ก็จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐเท่านั้นที่จะติดตามกลุ่มก่อเหตุได้
ด้านเด็กชายมูฮัมหมัดเซาบัน ยะปา อายุ 13 ปี บุตรชายนายซาปาวี ยะปา อดีตนายก อบต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐช่วยเรื่องการเรียนของพี่ชาย และน้องอายุ 2 เดือนรวมถึงตนเองจนจบการศึกษา รวมถึงช่วยเหลือความเป็นอยู่ของครอบครัวด้วย ซึ่งขณะนี้แม่ต้องรับภาระหนักทั้งการเลี้ยงน้องและหาเงินเลี้ยงครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นงานหนัก
สำหรับการเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐนั้น เด็กชายมูฮัมหมัดเซาบัน กล่าวว่า หากตนเองรู้ว่าใครเป็นคนไม่ดีก็ยังรู้สึกกลัวที่จะบอกกับเจ้าหน้าที่ เพราะเชื่อว่าการสูญเสียของพ่อมาจากการเป็นคนดี
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 54 ราย เป็นเงินรวม 8,050,000 บาท โดยการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต แยกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 18 ราย เป็นเงิน 9,000,000 บาท ประชาชนเสียชีวิต 8 ราย เป็นเงิน 4,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 19 ราย เป็นเงิน 2,700,000 บาท
สำหรับก่อนหน้านี้ทางจังหวัดนราธิวาสได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 302,097,819 บาท จำนวน 3,738 บาท ซึ่งหลังจากนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งสำรวจผู้ที่ยังตกหล่นและยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเพื่อมอบเงินเยียวยาให้ครบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทุกราย
อีกทั้งทางจังหวัดนราธิวาสและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมันคงมีการปรับแผนการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นหรือเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
ด้าน นางซีตีมารีแย ดามะมิง ภรรยาผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่เข้ารับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ต้องสูญเสียสามีไปครอบครัวตนเองก็ลำบาก การได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะตนเองจะนำไปเป็นทุนการศึกษาบุตร แต่อย่างไรก็ตาม อยากที่จะให้ภาครัฐช่วยเหลือด้านการศึกษาของบุตรอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการเสียชีวิตของสามีนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถทำใจได้ และยังคิดที่จะแก้แค้นกลุ่มที่ทำร้ายสามีแต่ก็ไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นใคร แต่ที่พึ่งได้ก็จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐเท่านั้นที่จะติดตามกลุ่มก่อเหตุได้
ด้านเด็กชายมูฮัมหมัดเซาบัน ยะปา อายุ 13 ปี บุตรชายนายซาปาวี ยะปา อดีตนายก อบต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐช่วยเรื่องการเรียนของพี่ชาย และน้องอายุ 2 เดือนรวมถึงตนเองจนจบการศึกษา รวมถึงช่วยเหลือความเป็นอยู่ของครอบครัวด้วย ซึ่งขณะนี้แม่ต้องรับภาระหนักทั้งการเลี้ยงน้องและหาเงินเลี้ยงครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นงานหนัก
สำหรับการเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐนั้น เด็กชายมูฮัมหมัดเซาบัน กล่าวว่า หากตนเองรู้ว่าใครเป็นคนไม่ดีก็ยังรู้สึกกลัวที่จะบอกกับเจ้าหน้าที่ เพราะเชื่อว่าการสูญเสียของพ่อมาจากการเป็นคนดี