ชุมพร -ผกก.ตชด.41 ชุมพรยันไม่มีส่วนรู้เห็นกรณีลูกน้องตั้งแก๊งอุ้มแม่-ลูกเรียกค่าไถ่กว่า 8 ล้าน แต่พร้อมรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง แล้วแต่เบื้องบนจะสั่งการอย่างไร
กรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จำนวน 13 นาย ร่วมกันก่อคดีอุ้มสองแม่ลูกไปเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงินกว่า 8 ล้านบาท จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลจับกุมได้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2551 ว่า จะต้องตรวจสอบผู้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิดตำรวจทั้ง 13 นายก่อนคือ ผกก.ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยหรือไม่ และเหตุใดจึงปล่อยให้ลูกน้องออกมาสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน
พ.ต.อ.สิงหนาท สีกาแก้ว ผกก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสุดแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะเมตตา หรือสั่งการลงมาอย่างไร เนื่องจากตำรวจต้องมีระเบียบวินัย หากผู้บังคับบัญชาสั่งอย่างไรก็คงต้องปฏิบัติตาม และคงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้ และในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจ ตชด.ทั้ง 13 นายคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
พ.ต.อ.สิงหนาท กล่าวต่อไปว่า ตนมาอยู่ชุมพรตั้งแต่ปี 2547 และก่อนหน้าที่ตนจะดำรงตำแหน่ง ผกก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร ตนเคยเป็นรอง ผกก.ตชด.ที่ 41 มาก่อน แต่ดูแลรับผิดชอบเฉพาะกิจการพลเรือนของ ตชด.ที่ 41 และดูแลเรื่องโรงเรียน ตชด.ในพื้นที่ จ.ชุมพรเท่านั้น
เมื่อตนเลื่อนขึ้นเป็น ผกก.ตชด.ที่ 41 เมื่อเดือนตุลาคม 2550 ก็ต้องดูแลในทุกๆ ด้าน จึงเพิ่งเข้ามาดูแลการปราบปรามยาเสพติดของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ตชด.ที่ 41 และไม่เคยทราบมาก่อนว่าชุด ศตส.ชุดนี้จะมีพฤติกรรมที่เลวโดยสันดานเช่นนี้ หากทราบคงจัดการไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงตำรวจแบบนี้แน่นอน
“ผมไม่รู้สึกกังวลหรือวิตกใดๆ ในเรื่องนี้ หากผู้บังคับบัญชาจะให้ทำอย่างไรก็พร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะคิดว่าตนเองทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด” พ.ต.อ.สิงหนาท กล่าว
กรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด กก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จำนวน 13 นาย ร่วมกันก่อคดีอุ้มสองแม่ลูกไปเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงินกว่า 8 ล้านบาท จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาลจับกุมได้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2551 ว่า จะต้องตรวจสอบผู้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิดตำรวจทั้ง 13 นายก่อนคือ ผกก.ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยหรือไม่ และเหตุใดจึงปล่อยให้ลูกน้องออกมาสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน
พ.ต.อ.สิงหนาท สีกาแก้ว ผกก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสุดแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะเมตตา หรือสั่งการลงมาอย่างไร เนื่องจากตำรวจต้องมีระเบียบวินัย หากผู้บังคับบัญชาสั่งอย่างไรก็คงต้องปฏิบัติตาม และคงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้ และในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจ ตชด.ทั้ง 13 นายคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
พ.ต.อ.สิงหนาท กล่าวต่อไปว่า ตนมาอยู่ชุมพรตั้งแต่ปี 2547 และก่อนหน้าที่ตนจะดำรงตำแหน่ง ผกก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร ตนเคยเป็นรอง ผกก.ตชด.ที่ 41 มาก่อน แต่ดูแลรับผิดชอบเฉพาะกิจการพลเรือนของ ตชด.ที่ 41 และดูแลเรื่องโรงเรียน ตชด.ในพื้นที่ จ.ชุมพรเท่านั้น
เมื่อตนเลื่อนขึ้นเป็น ผกก.ตชด.ที่ 41 เมื่อเดือนตุลาคม 2550 ก็ต้องดูแลในทุกๆ ด้าน จึงเพิ่งเข้ามาดูแลการปราบปรามยาเสพติดของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ตชด.ที่ 41 และไม่เคยทราบมาก่อนว่าชุด ศตส.ชุดนี้จะมีพฤติกรรมที่เลวโดยสันดานเช่นนี้ หากทราบคงจัดการไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงตำรวจแบบนี้แน่นอน
“ผมไม่รู้สึกกังวลหรือวิตกใดๆ ในเรื่องนี้ หากผู้บังคับบัญชาจะให้ทำอย่างไรก็พร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะคิดว่าตนเองทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด” พ.ต.อ.สิงหนาท กล่าว