xs
xsm
sm
md
lg

อดีตครูตรังหัวก้าวหน้าปลูกสละอินโดฯ ในสวนยางเสริมรายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง – อดีตครูเมืองตรังหัวก้าวหน้า หันปลูกสละอินโดแซมสวนยาง เผยราคาสูงถึง 100 บาท/กิโลฯ พร้อมถ่ายทอดวิชาให้ทุกคนที่สนใจ

นายเจษฎา เบญจวรากูร อายุ 56 ปี อดีตข้าราชการครู สังกัดกรมสามัญศึกษา ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง กล่าวว่า หากพูดถึงผลไม้ต่างประเทศหลายคนคงจะนึกถึง ผลแอปเปิ้ล สาลี ลูกพลับ หรือผลไม้อีกหลากลายชนิด ซึ่งปัจจุบันสามารถปลูกได้แล้วในประเทศไทย เช่นเดียวกับสละพันธุ์อินโดนีเซีย ที่สามารถปลูกได้ในจังหวัดตรัง โดยที่คุณภาพไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากสายพันธุ์เดิม แถมยังสามารถนำมาทำสวนแบบผสมผสาน ระหว่างสวนยางพารา กับสละพันธุ์อินโดนีเซีย ในพื้นที่ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว

ทั้งนี้ หลังจากหยุดอาชีพการเป็นครูผู้สอนวิชาชีววิทยา หมวดวิชาวิทยาศาสตร์ ก็ได้ผันตัวเองมาเป็นชาวสวนอย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นด้วยการดูแลสวนยางพารา ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง จากนั้นก็ได้ศึกษาการทำสวนแบบผสมผสานและพืชพันธุ์ต่างๆ ที่สามารถปลูกร่วมกับสวนยางพาราได้

จนกระทั่งได้มารู้จักกับผลไม้อย่างสละสายพันธุ์อินโดนีเซียและทำให้เกิดความชื่นชอบในความแปลก เพราะมีรสชาติที่อร่อยและแตกต่างไปจากสละทั่วไป เนื่องจากเนื้อของผลจะมีสีขาว และมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ แต่มีความพิเศษตรงที่เนื้อของผลนั้นจะไม่ติดเมล็ด ทำให้มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย น่ารับประทาน

ดังนั้น เมื่อประมาณปี 2546 จึงได้ติดต่อขอนำสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย มาจากชาวสวนสละในจังหวัดนราธิวาส จากนั้น ได้นำต้นกล้าซึ่งมีราคาต้นละ 50 บาท มาปลูกลงในระหว่างร่องของสวนยางพารา ที่เป็นพื้นที่กว้างมากพอสำหรับการปลูกต้นสละสายพันธุ์อินโดนีเซีย โดยเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ สามารถปลูกได้ทั้งหมด 780 ต้น สำหรับวิธีการปลูกนั้น จะขุดหลุดขนาดกว้าง 50 ซม. คูณ 50 ซม.

จากนั้น รองก้นหลุมด้วยสารโบกาฉิและอีเอ็ม หลุมละประมาณครึ่งกิโลกรัม แล้วทิ้งไว้ 7 วัน ก่อนที่จะนำต้นกล้าลงปลูก แล้วรดน้ำวันละ 1 ครั้ง และใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง หลังจากนั้น เมื่อต้นสละมีอายุได้ 2 ปี ก็จะเริ่มออกดอก แต่การที่สละสายพันธุ์อินโดนีเซียจะออกผลได้นั้น เกษตรกรจะต้องช่วยในการผสมเกสร ระหว่างดอกตัวผู้กับดอกตัวเมีย ซึ่งแต่ละต้นก็จะให้ดอกที่ไม่เหมือนกัน

โดยการนำเกษรตัวผู้เคาะใส่ในจาน แล้วใช้พู่กันป้ายไปยังเกษรตัวเมีย กระทั่งเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 สละก็จะเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง หรือปีละ 4 ครั้ง โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 70-100 บาท แต่ส่วนใหญ่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จะส่งไปจำหน่ายที่จังหวัดเพื่อนบ้านอย่างจังหวัดพัทลุง

ส่วนการดูแลต้นสละในขณะที่ให้ผลผลิตแล้วนั้นง่ายมาก เพียงแต่ต้องระวังแมลงวันทองที่จะมากัดกินผลอ่อน ด้วยการฉีดสารอีเอ็ม และสุโตฉู เพื่อช่วยไล่แมลงโดยปลอดจากสารเคมี นอกจากนั้น จากการที่สละพันธุ์อินโดนีเซีย ไม่ชอบอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป เมื่อนำมาปลูกให้อยู่ร่วมกับยางพารา จึงถือว่าเป็นการแบ่งร่มเงาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ต้นไม้ด้วยกัน ทั้งนี้ หากผู้ใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ (086) 279-7958

กำลังโหลดความคิดเห็น